วันนี้ (18 มิ.ย.) นายสงวน แสงใจหนัก อายุ 68 ปี ชาวบ้าน จ.นครสวรรค์ เปิดเผยกับ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ว่า ตนถูกเอาเปรียบจากเจ้าหน้าที่กรมสรรพกรคนหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ เนื่องจากลูกบุญธรรมของพี่สาวคนที่ 2 ที่เป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพกร นำที่ดินจำนวน 33 ไร่ของตนหลังจากที่พี่น้องทั้ง 4 คนของตนได้เสียชีวิตไปหมดแล้วที่ดินจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของตน โดยอ้างว่าตนเป็นผู้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ลูกบุญธรรมของพี่สาวเป็นคนจัดการมรดก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่
นายสงวน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ลูกบุญธรรมของพี่สาวตนยังได้นำที่ดินจำนวน 33 ไร่ดังกล่าวไปครอบครองไว้เพียงผู้เดียวโดยที่ไม่ได้แบ่งอะไรให้กับตนทั้งสิ้น ตนจึงไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ จนขณะนี้เป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว ก็ยังไม่ได้ส่งเรื่องดำเนินคดีใดๆ เลย แต่พอทางฝ่ายเจ้าหน้าที่กรมสรรพกรคนนั้นไปแจ้งความทางเจ้าหน้าที่กลับรีบรับเรื่องดำเนินคดีกับตนทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงการขมขู่คุกคามอีกด้วย
"เรื่องดังกล่าวทำให้ภรรยาของผมช็อกถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา ถ้าผมไม่ได้เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามามาช่วย พวกที่เกี่ยวข้องกับคดีมรดกของผมอาจใช้อำนาจมืดอีกแน่ นอกจากนี้ มีจดหมายแจ้งมาว่า หากผมไม่ไปให้ปากคำจะมีหมายศาลมาออกหมายจับ ผมจึงตัดสินใจฟ้องดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรี กับพวก 9 คนที่ไม่ยอมส่งเรื่องขอทูลเกล้าถวายฎีกา โดยผมได้เขียนไปแล้วรวมทั้งหมด 7 ฉบับว่าผมถูกเจ้าหน้าที่ที่มีอิทธิพลใน จ.นครสวรรค์ กระทำกับผม" นายสงวน กล่าว
นายสงวน กล่าวต่ออีกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ไม่เป็นกลาง เนื่องจากปล่อยให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพกร เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัด อัยการจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รวมถึงตำรวจ สภ.เก้าเลี้ยว ที่กระทำกับผมฝ่ายเดียว และถูกขัดขวางในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด มันไม่ถูกต้องที่จะไปปกป้องผู้ที่กระทำผิด ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ผมอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์มาที่ศาลจังหวัดด้วย เพราะเป็นวันตัดสินคดี ผมอยากให้มาดูว่าศาลจะตัดสินอย่างไร
"ก่อนหน้านี้มีตำรวจได้ไปที่บ้านผม แบบนี้ถือว่าคุกคามผมมากเกินไปหรือไม่ ทั้งนี้ มีคนมาขอให้ผมไกล่เกลี่ยเรื่องที่ดิน 33 ไร่ และบอกว่าเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย พร้อมบอกว่าจะคืนที่ดิน 33 ไร่ พร้อมกับเงินอีก 3 ล้านบาทให้กับผม จึงถามกลับไปว่าใครเป็นคนเสนอ เขาตอบไม่ได้ ผมจึงตอบไปว่าไม่เอา และมีการเสนอในทำนองนี้ประมาณ 3 ครั้งแล้ว ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แบบนี้มันไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรม ทุกคดียอมความกันได้ แต่ถ้ามาพูดอย่างนี้ให้ผม 99 ล้านบาท ผมก็ไม่เอา ผมอยากได้ความเป็นธรรม และให้ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย" นายสงวน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี