วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ส่องเกษตร : หมูมะกันกับสงครามการค้า

ส่องเกษตร : หมูมะกันกับสงครามการค้า

วันพุธ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : ส่องเกษตร
  •  

กูรูต่างระบุเศรษฐกิจโลกปีนี้ฟื้นตัวชัดเจนมาก ทั้งประเทศผู้นำเศรษฐกิจสำคัญๆตั้งแต่สหรัฐอเมริกาลงมา รวมถึงประเทศไทยด้วย การฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ส่งผลดีต่อสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลาย รวมถึงสินค้าเกษตร หลายๆตัวที่กลับมาราคาดีขึ้น สร้างความหวังที่สดใสให้ภาคการเกษตรไทยได้ไม่น้อย

แต่ท่ามกลางการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกนี้ กลับเกิดภาวะความตึงเครียด ด้วยส่อที่จะเกิด“สงครามการค้า” ที่รุนแรง เข้ามาทำลายบรรยากาศอย่างน่าเสียดาย


ผู้ที่โลกจ้องประณามเพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตา“จุดชนวนสงครามการค้า”อย่างแข็งขัน คือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯจากการเลือกตั้งด้วยการหาเสียงนโยบาย“อเมริกันมาก่อน”(America Frist) ละทิ้งสิ่งที่เคยยอมเสียเปรียบบ้างให้กับประเทศที่ด้อยกว่าหรือประเทศที่เป็นพันธมิตรเพื่อแสดงความเป็น“พี่เบิ้ม”มหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลก โดยหันกลับมายึดเอาแต่เรื่องผลประโยชน์ของอเมริกาเป็นที่ตั้งหลักอย่างสุดขั้ว ชนิดไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น

ประเทศที่ค้าขายได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ ถูกประกาศที่จะใช้มาตรการ“จัดการ”ถ้าไม่เปิดกว้างให้สหรัฐฯขายสินค้าคืนได้มากขึ้น ล่าสุด“ทรัมป์”ก็เปิดสงครามการค้าอย่างเป็นทางการกับ“จีน”มหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ โดยประกาศขึ้นภาษี 25% สินค้าจีนนำเข้าลอตแรกกว่า 800 รายการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์(ราว 1.6ล้านล้านบาท)เริ่มมีผลบังคับใช้ 6 ก.ค.นี้ โดยไม่สนใจที่เศรษฐศาสตร์โลกชี้ว่า สงครามการค้าที่เกิดขึ้น มีสิทธิสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

แน่นอน“จีน”ย่อมไม่นิ่งเฉยให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว แต่ได้ตอบโต้ทันที ประกาศขึ้นภาษี 25%สินค้าสหรัฐ 659 รายการมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน ซึ่งลอตแรก 545 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึงสินค้าด้านการเกษตร ยานยนต์และสินค้าทางทะเล จะเริ่มมีผล 6 ก.ค.เป็นต้นไป

แค่ประเดิมประกาศสงครามก็มีผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วนไปไม่ใช่น้อย ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นต่างๆพากันร่วงลงระนาว ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เตือนรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรับมือให้ดี เพราะไทยก็ต้องได้รับผลกระทบด้วยแน่นอน เช่น ภาคส่งออกที่ไทยส่งออกวัตถุดิบโดยเฉพาะสินค้าเกษตรอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของสินค้าทั้ง 2 ประเทศมหาอำนาจนี้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญปัญหาสินค้าบางชนิดไหลทะลักเข้ามา เนื่องจากจีนและสหรัฐฯต่างต้องการระบายสินค้าทดแทนส่วนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้านี้

ข้อเสนอแนะที่มีมา เช่น ให้ไทยเตรียมพร้อมรับมือสินค้าทุ่มตลาดจากจีนและสหรัฐฯ, ให้ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดกับการส่งออกทั้งสินค้าวัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง สินค้าสำเร็จรูป ขณะที่ต้องฉวยจังหวะแสวงหาโอกาสส่งออกไปตลาดจีนและสหรัฐฯ ในสินค้าที่สหรัฐฯและจีนตอบโต้ตั้งกำแพงภาษีต่อกันและเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันได้ คาดว่า ไทยน่าจะส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีนได้มากขึ้น เป็นต้น

ข้อเสนอเหล่านี้ จึงเป็นการมองสงครามการค้า“จีน-สหรัฐฯ”เป็นทั้งปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อไทย และเป็นทั้งโอกาสสำหรับสินค้าเกษตรบางตัวของไทย ถ้ารู้จักฉกฉวยให้ดี

อย่างไรก็ตามสินค้าเกษตรที่กำลังจะได้รับผลกระทบเฉพาะหน้านี้ตัวหนึ่งที่ต้องเตรียมรับมือให้ดีก็คือ“หมู” ซึ่งสหรัฐฯพยายามกดดันไทยมาตลอดให้เปิดเสรีนำเข้า”หมูมะกัน” แต่ไทยก็ยังต้านไว้ด้วยเรื่องที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูสหรัฐมีการใช้“สารเร่งเนื้อแดง”ที่เป็นสิ่งต้องห้ามของไทย

มาตอนนี้“หมูมะกัน”เป็นสินค้าหนึ่งที่ถูกจีนตอบโต้ใน“สงครามการค้า” จึงมีโอกาสสูงมากที่สหรัฐฯจะหันมาเร่งกดดันประเทศต่างๆรวมถึงไทยมากยิ่งขึ้น ให้เปิดนำเข้า“หมูมะกัน” มิเช่นนั้น อาจจะใช้มาตรการรุนแรง“จัดการ”เหมือนที่เปิดสงครามกับจีนได้

ซึ่งมีข่าวว่า ในเดือนก.ค.ที่จะถึงนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(ยูเอสทีอาร์)จะเดินทางมาพบหน่วยงานรัฐบาลไทย จี้ให้เร่งเปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมู ตามที่เคยหารือกันในการประชุมกรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ เมื่อเดือนเม.ย.2561 พร้อมกับขู่ว่า หากไทยไม่ผ่อนปรน ก็มีสิทธิจะถูกสหรัฐตัด“GSP”สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรสินค้าจำนวนมากได้ เพราะในการต่ออายุ GSP ครั้งที่ผ่านมา ประธานาธิบดี“ทรัมป์”ก็ไม่พอใจมาก

สัญญาณเตือนภัยจึงดังขึ้นอีกแล้ว เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูของไทยต้องออกมาต่อต้านแน่ แล้วภาครัฐเตรียมการอะไรไว้รับมือหรือยัง?

สาโรช บุญแสง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ศาลอนุญาตฝากขัง กาน เวลไฟร์ ยิงบนทางด่วนศรีรัช

ปชป.ปักธงภาคตะวันออก สาธิต ประกาศพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ทำ คนไทยหายจน

'อนุทิน'ขอรอฟังผลเจรจา GBC ก่อนนำเข้าที่ประชุมสมช. วันนี้ ลั่นอะไรเป็นของเราก็ต้องเป็นของเรา

ทบ. เผย คุมพื้นที่ สระแก้ว อีสานใต้ ได้แล้วหลายจุด แม้กัมพูชายังยิงต่อเนื่อง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved