เครือข่ายทวงคืนป่าดอยสุเทพ ยื่นหนังสือถึงเลขาฯศาลยุติธรรม-ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ทวงถามความคืบหน้าการแก้ไขข้อพิพาทโครงการสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ 3 ข้อ จี้ยุติสัญญา – ย้ายข้าราชการออก –และคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ พร้อมจี้แถลงความชัดเจน ขีดเส้น 30 มิ.ย.ระดมพลมาฟังคำตอบ เชื่อคนเชียงใหม่นับพันมาร่วมด้วยแน่นอน
เมื่อวันที่ 19มิถุนายน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายโชติพัฒน์ ศรีภักดีพงศ์เดช เครือข่ายวิศวกรรักษ์ป่า เข้ายื่นหนังสือให้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ผ่านประธานศาลอุทธรณ์ภาค5 เรียกร้องการแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ
สาระสำคัญของหนังสือดังกล่าว สรุปว่า เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพติดตามนโยบายการแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการอย่างใกล้ชิดมาตลอด และจากรายงานของสื่อมวลชนที่เผยแพร่ภาพล่าสุดของการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการฯ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า การก่อสร้างโครงการดังกล่าวจะไม่แล้วเสร็จตามสัญญาในวันที่ 18 มิถุนายนแน่นอน เครือข่ายฯจึงขอเรียกร้อง 3 ข้อให้แก้ไขปัญหาดังนี้ 1.ให้ยุติสัญญาก่อสร้างทันที 2.ย้ายข้าราชการที่เข้าไปอยู่ในอาคารชุด 9 หลังออก โดยกำหนดเวลาดำเนินการชัดเจน และ.คืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ดำเนินการขั้นตอนต่อไป
ซึ่งข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อคือ ข้อตกลงที่รัฐบาลตกลงไว้กับเครือข่ายฯ ในการเจรจาวันที่ 6 พฤษภาคม และศาลอุทธรณ์ภาค 5 ประกาศไว้แล้วว่าจะทำตามที่รัฐบาลมอบหมายให้ดำเนินการแทน ดังนั้น เครือข่ายฯจึงขอให้มีการแถลงความคืบหน้าอย่างเป็นทางการ ให้สาธารณะชนรับรู้
นอกจากนี้ ยังมีหนังสือ ฉบับที่ 2 ส่งถึงประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เรื่องขอข้อมูลข่าวสารกรณีข้าราชการเข้าไปพักอาศัยในอาคารชุดของโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ มีสาระสำคัญกรณีที่การวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชียลมีเดียที่มีข้าราชการเข้าไปพักอยู่ในอาคารชุด ของโครงการฯประมาณ 30 คน ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมว่า ยังไม่อนุมัติให้ใครไปอยู่ทั้งสิ้น มีเนื้อหาสรุปว่า เพื่อให้เกิดข้อมูลกระจ่างชัด เครือข่ายฯขอรายละเอียดข้อมูล ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ดังนี้ 1.จำนวนข้าราชการที่เข้าไปพักอาศัยอยู่ในอาคารชุดในโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ 2.ขอทราบระยะเวลาที่ข้าราชการตุลาการเข้าไปพักอาศัยในอาคารชุดในโครงการว่าเข้าไปพักอาศัยตั้งแต่เมื่อใด และ 3.ขอข้อมูลแผนดำเนินการและกำหนดเวลาที่แน่ชัดในการหาที่พักอาศัยแก่ข้าราชการตุลาการหลังรย้ายออกจากอาคารชุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ายื่นหนังสือของเครือข่ายฯครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 อนุญาตให้เข้าไปได้เพียง 2 คนเท่านั้นคือ นายธีระศักดิ์และนายโชติพัฒน์ ไม่อนุญาตให้ผู้ติดตามหรือ สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพภายในบริเวณศาลแต่อย่างใด
โดยนายธีระศักดิ์เปิดเผยหลังเข้ายื่นหนังสือว่า เจ้าหน้าที่ศาลเข้ามารับหนังสือและบอกเพียงว่า จะนำหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวส่งให้ผู้บริหารระดับสูงต่อไป สำหรับเครือข่ายเราจะรอคำตอบจากศาลอุทธรณ์ ภาค.5 ตามเวลาที่กำหนด แต่วันที่ 30 มิถุนายนที่เครือข่ายฯจะนำมวลชนไปรอฟังคำตอบที่หน้าศาลอุทธรณ์ ภาค.5 อีกครั้ง คาดว่าจะมีชาวเชียงใหม่จำนวนนับพันคนมาร่วมด้วยแน่นอน
“หวังว่าสำนักงานศาลจะแถลงผลดำเนินการหรือการพิจารณาตัดสินใจที่แน่ชัดอย่ายืดเยื้อจนกลายเป็นข้อขัดแย้งไม่สิ้นสุด ขอให้ออกมาแถลงหลังได้รับหนังสือฉบับนี้ เนื่องจากปัจจุบันยังมีการแจ้งข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าใดๆจากศาลให้สาธารณชนรับทราบเลย” นายธีระศักดิ์กล่าว
และว่า ส่วนการหารือร่วมกับทหารและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนนั้น ผู้ว่าฯแจ้งว่ามีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ที่กรุงเทพมหานครมีอะไรบ้าง หลักๆคือ เราขอเข้าพื้นที่อีกครั้งโดยคณะกรรมการชุดใหญ่จะส่งตัวแทน คือ นายถาวร พรหมเมธี เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาที่เชียงใหม่ประมาณอาทิตย์หน้า เพื่อลงพื้นที่ร่วมกัน รวมถึงฟังข้อเสนอที่เครือข่ายฯต้องการ เช่น เราขอสัญญา ท้ายบันทึกสัญญา แบบแปลน ขอมาเป็นเดือนแล้วยังไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี