19 มิ.ย.61 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาคารบี ศูนย์ราชการ (แจ้งวัฒนะ) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ธนดล แก้วอุบล รอง ผบก.ปรก.บก.ปอท. และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ในฐานความผิด “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อการรักษาความมั่งคงปลอดภัยของประเทศหรือความมั่งคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งหมดได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามที่มีบุคคลนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยได้มีการโพสต์บทความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาลในเพจ FACEBOOK “KonthaiUk” โดยพาดหัวข่าวว่า “กูจะพาคนไม่กราบขอโทษมึงถึงที่ อย่าหลบแระกัน 10 Downing St., Westminster, London SW1A 2AA 20 มิ.ย. ลุงตูบไปอังกฤษพกเมียและลูกหลบภัย. 22 มิ.ย. ศาลฎีการับฟ้องว่าลุงตูบเป็นกบฏ” พร้อมการนำภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/รมว.กลาโหม มาตัดต่อรวมกัน และมีข้อความในภาพว่า “กราบ กราบ กราบ ขออภัยท่านพี่ทั้งสองแระกัน เห็นข่าวบอกท่านพี่ บิ๊กตู่,ป้อม จะซื้อดาวเทียม 91,200 ล้าน มาเก็บไว้ซ่อม แดกส่วนต่าง ไม่ซื้อแล้ว ก็ไม่ว่าอะไร แค่นี้ต้องออกหมายจับด้วยเหรอ ถ้าไม่จริงจะร้อนตัวทำไม หรือรับไม่ได้กับเรื่องจริง” เพื่อนำมาเป็นสื่อกระจายแก่บุคคลต่าง ๆ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าว อาจส่งผลทำให้ประชาชนที่ได้รับสื่อเกิดความตื่นตระหนก และหลงเชื่อได้ว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลจริง
จากการสืบสวนทราบว่าเพจ FACEBOOK “KonthaiUk” ได้ลงทะเบียนใช้ในชื่อบัญชี “Watana Ebbage” จากการสืบสวนทราบว่าคือ นางวัฒนา เอ็บเบจช์ อายุ 56 ปี มีถิ่นพักอาศัยอยู่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวในความผิดฐาน “นำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และยังได้มีการดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความข่าวสารอันเป็นเท็จในFACEBOOK อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ซึ่งในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย และอยู่ระหว่างการออกหมายเรียกอีก 6 ราย โดยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวได้ถึง 14 ราย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี