วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานการประชุมจากนั้น และนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ร่วมแถลงข่าวชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์สงฆ์และพระพุทธศาสนาขณะนี้
โดยนายสิปป์บวร แก้วงาม ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ชี้แจงประเด็นที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว คำสั่งของพระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะประธานกรรมการวัดสัมพันธวงศาราม มีคำสั่งให้จัดระเบียบวัดสัมพันธวงศ์ มีการพาดหัวข่าวที่รุนแรงว่าพระพรหมมุนี เพื่อนเก่าอดีตพระพรหมเมธี สั่งการล้างวัดสัมพันธวงศ์ แถมขับคนสนิท 3 รูปพ้นจากวัด เรื่องดังกล่าวไม่ตรงข้อเท็จจริง หากไม่มีการบอกกล่าวต่อสื่อมวลชนเกรงว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย
โดยพระพรหมมุนี ได้จัดทำแถลงการณ์ เป็นเอกสารชี้แจงต่อสื่อว่า การเข้าดูแลวัดเพื่อความเรียบร้อยเท่านั้น ขณะที่ของใช้อดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีเงินทอน ให้จัดเก็บ ลงทะเบียนไว้ชัดเจนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนเรื่องพระ 3 รูปนั้น เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการวัด เนื่องจากทางวัดเห็นว่าพระทั้ง 3 รูป ซึ่งเป็นพระอาคันตุกะ ที่เข้ามาอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์ แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีเงินทอนวัด ดังนั้น มติของวัดจึงให้ดูพฤติกรรมเป็นเวลา 3 เดือนก่อน เพื่อให้ปรับปรุงตัวใหม่ให้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยให้เรียบร้อย แล้วค่อยพูดคุยกันอีกที การที่พระพรหมมุนี ไปเป็นประธานกรรมการวัดสัมพันธวงศ์ เนื่องจากมีผู้ใหญ่ร้องขอมาให้เข้าไปช่วยกำกับดูแล
ส่วนการที่คณะสงฆ์คณะธรรมยุตแต่งตั้ง พระเทพสังวรญาณ (จิรพล อธิจิตฺโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ นั้น เนื่องจากสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดสัมพัธวงศ์ ท่านอาพาธ ส่วนการที่ตั้งพระสงฆ์จากวัดบวรฯ มาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์นั้น เพราะพระสงฆ์จากวัดสัมพันธวงศ์เป็นสายมาจากวัดบวรฯ
ส่วนการประชุมกรรมการวัด ตนไปนั่งเป็นประธาน และรับฟังเท่านั้น ทั้งยังบอกด้วยว่าจะทำอะไรให้ประนีประนอมกันให้เกิดความสงบในวัด ตอนนี้วัดช้ำพอแล้ว ให้ฟื้นฟูวัดให้ดี และช่วงนี้ให้ประชุมทุกเดือน ได้มีการแบ่งหน้าที่กันจัดระเบียบภายในวัดให้เรียบร้อย ให้ช่วยกันรักษาวัด แบ่งหน้าที่กันใครดูแลอะไร จะบูรณะอะไรให้วางแผนกันให้ดี
ด้าน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ได้เปิดให้โอกาสให้สื่อมวลชนซักถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับคณะสงฆ์ และชี้แจงว่าอยากให้ทุกฝ่ายใช้หลักกาลามสูตรหรือหลักทางพระพุทธศาสนาพิจารณาให้รอบคอบ ไม่อยากให้ไปเชื่อข่าวลือ ยืนยันว่า พศ.ไม่มีอำนาจไปจัดการหรือตรวจสอบบัญชีวัด รวมถึงสั่งห้ามพระจับเงิน คำสั่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระต้องออกมากจากมติของมหาเถรสมาคม (มส.) เท่านั้น ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์
พร้อมย้ำว่า ต้องการหาวัดตัวอย่างที่พระไม่จับเงิน ซึ่งเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัยเท่านั้น ไม่มีเจตนาอย่างอื่น และจากการสำรวจขณะนี้พบว่ามีวัดตัวอย่างแล้วที่พระไม่จับเงิน แต่ยังขอไม่เปิดเผยจำนวนและรายชื่อวัด
"อยากให้ชาวพุทธวิเคราะห์อย่างละเอียดถึงคำสั่งดังกล่าวเพราะที่ผ่านมากลับมีบางกลุ่มนำไปตีความทำให้เก้ดเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจะนำมาซึ่งความแตกแยกได้ อยากให้คณะสงฆ์สบายใจได้ว่า พศ.ไม่มีอำนาจห้ามพระจับเงิน และตนไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร เป็นชาวพุทธฯ ไม่ใช่พราหมณ์ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ เพียงแค่นามสกุลพราหมณ์เสน่ห์เท่านั้นบุคคลใดที่ปล่อยข่าวลือ อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวได้ถูกดำเนินคดีทุกคน การพูดปากต่อปาก ทำให้เกิดความหวั่นไหวไปหมด" พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว
พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวต่อว่า ส่วนการลงโทษทางวินัยข้าราชการ พศ.ที่ทุจริตเงินทอนวัดนั้น ได้ไล่ออกจากราชการเกือบทุกคนแล้ว มีเพียงบางส่วนที่ยังรอผลสอบสวนทางกระบวนการยุติธรรมอยู่ ส่วนการเข้าแจ้งความวัดหรือเจ้าหน้าที่ พศ.ที่ทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 กับทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นั้น ทางตำรวจ ปปป.ยังไม่ได้ทำหนังสือถึงตน ต้องรอผลการสืบสวนและหาพยาน หลักฐานให้ชัดเจนก่อน จึงยังไม่ทราบว่าจะต้องไปแจ้งความร้องทุกข์วันไหน ไม่สามารถตอบได้ พร้อมฝากแจ้งไปยังวัดทั่วประเทศหากพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ พศ.เรียกขอเงินทอนวัดอีกให้แจ้งโดยตรงมายังตนได้เลย สมัยของตนต้องไม่มีเงินทอน หากมีจะจัดการอย่างเด็ดขาด
"การกระทำความผิดในกรณีทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนวัด หรืองบประมาณแผ่นดิน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. หากงบฯนั้น เจ้าหน้าที่ พศ.ของทอนเงิน เจ้าหน้าที่ผิด 2.หากวัดได้รับงบและมีการยักย้ายถ่ายเท ถือเป็นการฟอกเงิน วัดคือฝ่ายผิด อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าเป็นไปตามกฏหมาย ป.วิอาญาหรือกฏหมายบ้านเมือง ไม่มีข้อยกเว้น คนบริสุทธิ์ ต้องได้รับความคุ้มครอง คนผิดต้องได้รับการลงโทษ หนี้สินหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องได้รับการชดใช้" พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี