สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรม“สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีแห่งภูมิปัญญา ความหลากหลายของชาติพันธุ์ เชียงใหม่”
นางสาวปราณปรียา พลเยี่ยม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชนเผ่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2561 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “มนต์เสน่ห์ แห่งชาติพันธุ์” เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของกิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนและท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่ มีความหลากหลายทั้งทางธรร มชาติ ศิลปวัฒนธรรม และชาติพันธุ์มากถึง 19 ชนเผ่าซึ่งมีความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละชนผ่าที่สวยงาม และมีชุมชนเมืองหลายๆ ชุมชนในแหล่งท่องเที่ยว มีต้นทุนทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 22 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2561 ภายในงานLanna Expo 2018 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชนเผ่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2561 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “มนต์เสน่ห์ แห่งชาติพันธุ์ ท่องเที่ยววิถีไทย วิถีล้านนา” เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ภายในจัดให้มีบูธผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่จำนวนกว่า 40 บูธ นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาติพันธุ์ การสาธิตวิถีชีวิตภูมิปัญญาแห่งชาติพันธุ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมชาติพันธุ์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับความสนใจทั้งนักท่องเที่ยวไทยและชาวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสความงดงามมนต์เสน่ห์แห่งชาติพันธุ์เชียงใหม่ แล้วท่านจะประทับใจอย่างมิรู้ลืม
กิจกรรม “มนต์เสน่ห์ แห่งชาติพันธ์” เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดงานขึ้นมาโดยเป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของกิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนและท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่ มีความหลากหลายทั้งทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และชาติพันธุ์มากถึง 19 ชนเผ่าซึ่งมีความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละชนเผ่าที่สวยงาม และมีชุมชนเมืองหลายๆ ชุมชนในแหล่งท่องเที่ยว มีต้นทุนทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงเล็งเห็นคุณค่า และความสำคัญในความหลากหลายของชนเผ่า อันเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว บนพื้นฐานความต้องการส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพบุคลากร และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว สามารถแข่งขันในระดับสากลของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้างเป็นเครือข่ายระหว่างกันแลกเปลี่ยนแนวความคิด ประสบการณ์ ความร่วมมือในการวางแผนประสานงาน การจัดการองค์ความรู้ สนับสนุนซึ่งกันและกัน นำมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และเป็นการเตรียมความพร้อมต่อผลกระทบจาก AEC ในอนาคตและเพื่อเป็นไปตามกรอบข้อตกลง ความร่วมมือการรวมกลุ่ม AEC ในการดูแลด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวของภูมิภาค ต่อไป
อย่างเช่นที่วัดป่าตาล อำเภอสันกำแพง ดูวิถีชีวิตคนยอง ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่น ได้จัดขึ้นไว้เพื่อให้ได้ดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน แต่ละชุมชนซึ่งมีเอกลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่วัด ชุมชนชาวยองบ้านป่าตาล ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ภูมิปัญญา ชุมชนแห่งการอนุรักษ์ประเพณี วิถีชาวยอง หมู่บ้านป่าตาล หมู่ 4 ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกับทางวัดป่าตาล ร่วมกันจัดทำหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ภูมิปัญญา เพื่อให้นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษาและบุคคลทั่วไป ที่สนใจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเรียนรุ้ภูมิปัญญาต่าง ๆ และสัมผัสวิถีชีวิตคนยอง โดยถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้านได้สร้างแบบรั่วบ้านของคนยองในอดีตโดยใช้ไม้ไผ่สานเรียกฮั่วสะลาบ นำมาทำเป็นรั่วบ้านแบบดั่งเดิม ซึ่งหมู่บ้านป่าตาลตั้งอยู่ตำบลบวกค้าง ซึ่งตำบลบวกค้างนั้นเป็นคนยอง อาศัยอยู่เกือบ 95% ยังมีการอนุรักษ์ภาษาพูด การแต่งกายและวิถีชีวิตคนยองอยู่ โดยเฉพาะหมู่บ้านป่าตาล บ้านแต่ละหลังคาเรือนจะมีคนในชุมชนทำหัตถกรรมภูมิปัญญาต่าง ๆ อาทิเช่น การทำกระดาษสา การทำจักสาน สานข้าวกล่องจากใบตาล สานตะกร้า สานไม้กวาด ทำโคม ทำหมวกกะโล่โบราณ การทำน้ำหนัง การทอผ้า การตัดเย็บเสื้อผ้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรพื้นบ้าน การปลูกผัก ทำสวนเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ และยังมีบริการไกด์นำเที่ยวในชุมชน เช่ารถถีบปั่นรอบหมู่บ้าน เช่าชุดยองถ่ายรูป มีที่พัก มีร้านอาหาร ของฝากของที่ระลึก พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่อไปคือที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ สิ่งที่โดเด่นและเป็นศูนย์รวมจิตใจคงจะเป็นที่วัดจันทร์ อยู่ใจกลางแหล่งชุมชนเลย และมีศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จ. เชียงใหม่ ก่อกำเนิดขึ้นหลังจากที่ ในหลวงรัชกาลที่๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเขาในเขตหมู่บ้านวัดจันทร์ พระองค์ทรงทราบถึง ความยากลำบากของชาวเขาใน พื้นที่ จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์และหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อก่อตั้ง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์” ขึ้น เพื่อช่วยให้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ราษฎร เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นที่นี่เป็นแหล่งท่องไฮไลต์มีทิวทัศน์ ธรรมชาติสวยงาม ของป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
โดยพื้นที่โครงการหลวงวัดจันทร์ ที่คุ้นเคยของนัก ท่องเที่ยวคือ ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อปป) ยังมีอ่างเก็บน้ำห้วยอ้ออีกด้วย และอีกหนึ่งจุดคือ ที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวง วัดจันทร์ จะตั้งอยู่คนละพื้นที่ แต่ทั้งสองแห่งอยู่ในพื้นที่ดูแลของโครงการหลวงเช่นกัน กิจกรรมที่น่าสนใจในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชมแปลงผักปลอดสารพิษ เยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวปกากะญอ ต่อมาที่อำเภอดอยสะเก็ด เยี่ยมชมมนต์เสน่ห์ของชาวไทลื้อ หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทลื้อ ณ บ้านลวงเหนือ หมู่ที่ 4 ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อบ้านใบบุญ หมู่ 4 ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ภายในมีแหล่งเรียนรู้หลากหลาย เช่น บ้านไตลื้อ หลองข้าวอุ้ยติ๊บ ผามหลัง ผามมอง ก๋างสวน ก๋างข่วง ปื้นหลองข้าว ปื้นกะล่างบ้าน น้ำเหมือง บ้านปอกระดาษสา บ้านตุ๊กตาไม้ และบ้านแกะสลักไม้ ซึ่งสามารถไปศึกษาเรียนรู้และเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อบ้านใบบุญ จัดตั้งขึ้นเพื่อเชิดชู และยกย่องบุพการีผู้ให้ทั้งชีวิต และจิตวิญญาณ ตลอดจนที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน รวมถึงเผยแพร่และแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ของลูกหลานญาติมิตร และเพื่อนบ้านใกล้เคียงของบ้านใบบุญที่สั่งสม บ่มเพาะมาจากบรรพชน ด้วยการสืบเสาะแสวงหาจนนำมาประยุกต์สร้างสรรค์ ที่เน้นความเป็นชาติพันธุ์ไตลื้อในล้านนาไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี