24 มิ.ย.61 เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงการจับกุม นายธนกฤต ประกอบ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.ลักษณา หรือเมย์ กำลังเก่ง อายุ 24 ปี อดีตแฟนสาว ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตาย หลังเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า หลังจากมีการพบชิ้นส่วนศพผู้ตายที่บริเวณป่าในซอยสามวา ตรงข้ามโรงงานที่นอนดาริ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.เจ้าหน้าที่ได้ได้สืบสวนจากวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งส่งลายนิ้วมือของผู้ตายให้กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบ จนทราบว่าผู้ตายเป็นใคร จากนั้นจึงสืบสวนต่อว่า มีความเกี่ยวข้องกับใครบ้างจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 12 มิ.ย. น.ส.ลักษณา เดินทางมาเก็บเสื้อผ้าออกจากห้องพักอาคารดีดี แมนชั่น ซอยสีหบุรานุกิจ 10 แล้วถูกนายธนกฤต ใช้ค้อนตีที่ศรีษะผู้ตาย 1 ครั้ง จนสลบ เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง ผู้ตายได้ฟื้นขึ้นมา จึงถูกนายธนกฤตใช้ผ้าห่มคลุมแล้วใช้ค้อนตีศรีษะอีก 3 - 4 ครั้ง จนเสียชีวิต
จากนั้นนายธนกฤตได้ทิ้งศพไว้ในห้องพัก 1 วัน โดยผู้ต้องหาออกไปทำงานตามปกติ แล้วกลับมาชำแหละศพเป็น 14 ชิ้น ก่อนทยอยนำใส่กระเป๋าเป้ กระสอบและหลอดใส่โปสเตอร์ ไปทิ้งริมถนนสามวา 2 รอบ กระทั่งมีผู้มาพบกระเป๋าเป้ และกระสอบบรรจุชิ้นส่วนมนุษย์ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ซึ่งระหว่างนั้นได้มีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กในลักษณะอำพรางเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย" พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าว
คดีนี้ตำรวจสามารถระบุตัวผู้เสียชีวิตได้จากลายนิ้วมือในสารบบทะเบียนราษฎร์ ประกอบกับการสืบสวนหาเบาะแสจากวัตถุพยาน ทั้งหลอดบรรจุชิ้นส่วนและพยานบุคคลที่เป็นเพื่อนร่วมงานของทั้ง 2 คน จนมีการเชิญตัวนายธนกฤต มาสอบสวนกระทั่งให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุเพราะความหึงหวงผู้ตายได้กลับไปคบกับสามีเก่า
ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพเนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน เพราะเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐาน ทั้งอาวุธ และพยานแวดล้อมที่ระบุได้ชัดเจนว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งตลอดการสอบปากคำผู้ต้องหามีอาการนิ่งเฉย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นย้ายทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย" ส่วนจะเข้าข่ายการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ อยู่ที่การสอบสวนเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันที่ 25 มิ.ย.พนักงานสอบสวนจะนำผู้ต้องหาส่งฝากขังและคัดค้านการประกันตัว
ข่าวแจ้งว่า นายธนกฤต ยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ลักษณา ได้เดินทางมาหาที่ทำงานเพื่อมาขอกุญแจห้องโดยให้เหตุผลว่าจะไปเก็บของ แต่นายธนกฤตให้รอจนถึงเวลาเลิกงานแล้วออกอุบายให้ไปที่ห้องพักพร้อมกัน เมื่อถึงที่หมายทั้งคู่เกิดมีปากเสียงจนฝ่ายชายเกิดบันดาลโทสะใช้ค้อนกระหน่ำทุบไปที่ศรีษะของฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต และเก็บร่างไว้ภายในห้อง
จากนั้นเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ใช้อาวุธมีดจำนวน 6 เล่ม ที่สั่งซื้อจากเพจเฟซบุ๊กมาก่อนหน้านี้เพื่อนำมาชำแหละศพโดยแยกออกเป็นชิ้นส่วน เนื่องจากมีความชำนาญจากอาชีพเก่าอยู่แล้ว ก่อนนำยัดใส่กระเป๋าเป้และกระสอบปุ๋ย
จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 มิ.ย.ได้ขนย้ายขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นจีที สีดำ หมายเลขทะเบียน 5กบ3173 กรุงเทพมหานคร โดยใช้เป็นยานพาหนะก่อนนำไปทิ้งภายในป่าพงหญ้า บริเวณซอยสามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.รวมจำนวน 2 ครั้ง ก่อนมีผู้มาพบชิ้นส่วนศพช่วงกลางดึกของวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา และมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
มีรายงานว่า สำหรับนายธนกฤต เคยเป็นผู้ช่วยเชฟที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา และยังเคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานชำแหละไก่ในโรงงานฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม.ก่อนมาทำงานกับฝ่ายหญิงที่บริษัท พริ้นต์วิทมี จำกัด ซอยเลียบคลองสอง 29 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.โดยคบหาดูใจกับ น.ส.ลักษณา ได้ประมาณ 2 ปี อีกทั้งเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ลักษณา ได้ขอลาออกจากงานก่อนมาตัดสินใจเลิกลากับนายธนกฤต ในช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
ระหว่างที่ นายธนกฤต และ น.ส.ลักษณา คบหาดูใจกัน ฝ่ายหญิงได้พาฝ่ายชายไปที่บ้านเกิดใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อไปหาครอบครัว และไปดูแลบุตรทั้ง 2 คน ปีละประมาณ 1 - 2 ครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี