25 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 77 ปีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปีนี้มีการจัดกิจกรรมพิเศษ ภายใต้ชื่องาน “รักษ์หัวใจ อภัยภูเบศร” เพื่อผู้ป่วยและผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และเป็นการสานต่อโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ที่บริจาคเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และจัดทำห้องสวนหัวใจจนแล้วเสร็จและได้เปิดศูนย์หัวใจอย่างเป็นทางการ
นายแพทย์นำพล แดนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า จากข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในช่วงปี 2555-2558 พบอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2558 พบอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ย ชั่วโมงละ 2 คน สะท้อนให้เห็นว่าปัจจุบันโรคหัวใจกำลังเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก และต้องได้รับการดูแล คำแนะนำในการป้องกันและรักษา โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง รวมถึงผู้มีภาวะอ้วนและผู้ที่สูบบุหรี่
สำหรับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนั้น นายแพทย์นำพล กล่าวว่า มีข้อมูลพบผู้ป่วยในกลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจจำนวนมาก แต่เดิมยังไม่มีการบริการรักษาที่ครอบคลุมเนื่องจากขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เอื้ออำนวย ทางโรงพยาบาลจึงได้จัดทำศูนย์โรคหัวใจขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว และยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณเงินบริจาค จากโครงการก้าวคนละก้าว เป็นจำนวนเงิน 91 ล้านบาท เพื่อนำมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และจัดทำห้องสวนหัวใจจนแล้วเสร็จ จึงได้ทำการเปิดศูนย์หัวใจอย่างเป็นทางการ เนื่องในวันครบรอบ 77 ปีของโรงพยาบาล
ด้านของการใช้สมุนไพรใกล้ตัวเพื่อการพึ่งตนเอง ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม เปิดเผยว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีการส่งเสริมการเรียนรู้ภาคประชาชนเพื่อการพึ่งตนเอง ลดโอกาสการเจ็บป่วยในกลุ่มโรคหลอดเลือกหัวใจ ด้วยสมุนไพรพื้นบ้านหลายชนิด ที่มีการใช้มานานและได้รับการยอมรับด้วยงานวิจัยเช่น “กระเทียม” ในกระเทียมมีสารอัลลิซินที่ช่วยลดไขมันเลวในเลือดและลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของหัวใจโดยตรง “ดอกคำฝอย” มีสารสีเหลืองส้ม คนโบราณใช้ในการแต่งสีอาหาร โดยการนำกลีบดอกมาแช่น้ำร้อน ซึ่งสารนั้นมีชื่อว่า Carthamin และ Sufflower yellow อีกทั้งในเมล็ดดอกคำฝอยยังมีน้ำมันระเหย เรียกว่าน้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย มีส่วนประกอบของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวหลายชนิด มีผลลดระดับโคเลสเตอรอลไขมันตัวร้าย(LDL) และป้องกันการอุดตันของไขมันในเลือด รวมทั้งมีผลในการป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย
“ขิง” มีการศึกษาหนึ่งของต่างประเทศพบว่า การรับประทานขิงแคปซูลวันละ 3 กรัมต่อวัน โดยแบ่งให้วันละ 3 เวลา เป็นเวลา 45 วัน สามารถลดระดับไขมันโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ นอกจากนี้ขิงยังมีป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดได้
“บัวหลวง” จากการศึกษาพบว่าสารสกัดใบบัวหลวงมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตแบบเฉียบพลันได้ และยังมีฤทธิ์เร่งการทำงานของหัวใจโดยเพิ่มอัตราการเต้นและมีผลต่อการเกิดไฟฟ้าของหัวใจ โดยสารสกัดใบบัวหลวงน่าจะออกฤทธิ์ผ่านทาง b-adrenergic receptors
“น้ำมันรำข้าว” เป็นอีกตัวที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจได้ มีงานวิจัยยืนยันมากมายว่า ช่วยลดไขมันเลือดได้ ทั้งโคเลสเตอรอล ไขมันตัวร้าย ไขมันไตรกลีเซอรไรด์ ช่วยลดการดูดซึมไขมันและเพิ่มการกำจัดไขมัน นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มไขมันตัวดี ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดดังกล่าว
ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากการใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกแล้ว การรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นับเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะช่วยให้ห่างไกลความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ ประชาชนที่สนใจสอบถามปรึกษาหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ 037-211289 ในวันเวลาราชการ หรือไปพบกันได้ในงานมหกรมสมุนไพรแห่งชาติ 18-21 กรกฎาคม นี้ ที่อิมแพคชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี