กระชับพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา รองรับน้ำหลาก 2561

กระชับพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา รองรับน้ำหลาก 2561

วันอังคาร ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 18.36 น.

การดูแลบูรณาการเรื่องน้ำ เป็นงานที่ต้องทำกันทั้งปี ด้วยประโยคเดียว “น้ำคือชีวิต”

ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน นับแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปจนถึงปลายปี  ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โอกาสเผชิญภัยน้ำหลากท่วมค่อนข้างสูง เป็นที่น่ากังวลทุกปี 


ระฆังที่ตึกสันติไมตรี  ดังลั่นทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2561 เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดตัวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ท่ามกลาง 38 หน่วยงาน 7 กระทรวงเกี่ยวข้องด้านน้ำ

เป็นสัญญาณการบูรณาการงานด้านน้ำอย่างจริงจัง นอกจากยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการ ซึ่งเป็นแผนระยะกลางและระยะยาวแล้ว ยังมีแผนระยะสั้นเฉพาะหน้า คือการรับมือกับฤดูน้ำหลาก เป็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรี ใส่ใจเป็นพิเศษ

เหตุการณ์มหาอุทกภัยปี 2554 น่าจะเป็นอุทาหรณ์  เพราะค่าความเสียหายมากถึง 1.4 ล้านล้านบาท

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ ในฐานะเลขาธิการ สทนช. จึงลงพื้นที่เกาะติดภารกิจหน่วยงานกลางบูรณาการเรื่องน้ำ ประเดิมพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดอ่อนไหวเปราะบางก่อน 3 จุด ประกอบด้วย  อ.ผักไห่ อ.เสนา และ อ.บางบาล

งานนี้ กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่ส่งทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ไม่เพียงแต่ทำความเข้าใจบทบาท และเชื่อมร้อยการทำงานระหว่างหน่วยงาน โดยมีการชี้แจงแผนงานและความคืบหน้ารับมือน้ำหลากของแต่ละหน่วยเท่านั้น หากแต่ยังต้องปรับจูนงานระหว่างหน่วยงานด้วย  เพราะข้อมูลที่นำเสนอเห็นได้ชัดว่ามีโครงการทับซ้อนกัน โดยต่างฝ่ายต่างไม่รู้ เช่น โครงการของกรมชลประทานกับโครงการของท้องถิ่น  โครงการสร้างถนนของกรมชลประทานกับกรมทางหลวงชนบท

บางครั้งมีปัญหาขาดการสื่อสารระหว่างกัน เช่นอำเภอบางซ้ายแจ้งขอให้แก้ไขปัญหาอาคารชลประทานชำรุด  กรมชลประทานได้รับงบประมาณซ่อมบำรุงมาแล้ว ก็ไม่ได้แจ้งให้ทราบ เป็นต้น

การแบข้อมูลของแต่ละหน่วยออกมา ทั้งแผนงาน โครงการ งบประมาณ  ทำให้เห็นภาพปัญหาและการแก้ปัญหาชัดเจนขึ้น โดยมี สทนช. เป็นคนกลาง บางโครงการตั้งแผนไว้ปี 2563 ซึ่งช้าไปไม่ทันต่อสถานการณ์ สทนช. รับปากหาทางช่วยหาทางเร่งรัดให้เร็วขึ้น

กลายเป็นเรื่องน่าพิศวง เป็นไปได้อย่างไร ไม่น่าเชื่อ

เพราะแต่เดิมถ้าบอกว่า โครงการใดบรรจุงบปีใดก็ปีนั้น ไม่ทันก็คือไม่ทัน ราษฎรต้องตั้งหน้าตั้งตาคอย ทั้งที่เป็นความเป็นความตายก็มี

หรือกรณี 2 หน่วยงานมีปัญหาการทำงานในบริเวณที่เชื่อมต่อกัน จากเดิมที่ต่างคนต่างทำตามที่ออกแบบไว้  ถ้าไม่ประสานกันก็จะมีปัญหาได้เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ  สทนช. ก็เป็นตัวประสานให้ 2 หน่วยร่วมมือกันเป็นทิศทางเดียวกัน เกิดประโยชน์ตรงวัตถุประสงค์

 สทนช. จึงเปรียบเสมือนกรรมการกลาง และผู้ช่วยชี้แนะปัญหาไปในตัว 

นอกจากประสานการทำงานของหน่วยงานด้านน้ำแล้ว เวทีที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คือการเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้รับฟัง รับรู้ แผนงาน โครงการ ของหน่วยงานรัฐที่ทำในพื้นที่ตัวเอง พร้อมทั้งสะท้อนความต้องการ ข้อจำกัดให้หน่วยงานได้รับรู้ด้วย และปรับแก้กันตรงนั้นด้วยเลย

คล้ายๆ เป็นการร่วมกันตั้งวงคุย แล้วร่วมกันปรับแก้กัน เห็นผลชัดๆ กันตรงนั้นเลย

จึงไม่เพียงแต่เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานรัฐเท่านั้น หากข้ามฝั่งไปบูรณาการร่วมกับฝั่งราษฎรไปในตัวด้วย เป็นความพิเศษของหน่วยงานกลาง

แนวคิดเรื่องระหว่างน้ำท่วมอยู่นั้น ราษฎรยังสามารถเดินทางสัญจรทางถนนไปได้  นั่นหมายถึงเส้นทางถนนโดยหน่วยงานอื่นต้องยกระดับที่สูงพอ กรมชลประทานต้องปรับตัวเองด้วย ทั้งปริมาณน้ำและระดับความลึก  เพราะในปี 2560 บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำผักไห่ ตั้งเป้าหมายปล่อยให้น้ำเข้ามา 200 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่กลับมีน้ำเข้ามาจริงถึง 330 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ท่วมเส้นทางสัญจรไปไหนไม่ได้ เป็นต้น      

ขณะเดียวกัน ฝ่ายปกครองอย่างนายอำเภอผักไห่เสนอให้จัดตั้งศูนย์อพยพราษฎรชั่วคราว รองรับน้ำหลากท่วมสูง   หรือนายอำเภอบางซ้ายเสนอให้หน่วยงานรับผิดชอบแจ้งข้อมูลแท้จริงโดยไม่ปกปิด เช่น ท่วมก็บอกว่าท่วม เพื่อให้ราษฎรใช้วางแผนจัดการตัวเองได้ หรือข้อเสนอของตัวแทนกรมทางหลวงชนบท ที่เสนอจัดหาสถานที่จอดรถให้ราษฎรที่ถูกน้ำท่วมก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน

นี่เป็นเพียงหนังตัวอย่างในพื้นที่บางจุดเท่านั้น แต่เริ่มเห็นความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนโดย สทนช. ชัดเจนขึ้นระดับหนึ่ง

คำว่า “หน่วยงานบูรณาการด้านน้ำ” จะไม่ใช่คำเลื่อนลอยอีกต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top