ความคืบหน้ากรณีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา www.krisdika.go.th เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 โดยการกำหนดให้การแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ และเจ้าคณะภาค ให้เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.-27 มิ.ย.61 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในคณะสงฆ์ นักวิชาการทางพระพุทธศาสนา และองค์กรทางพระพุทธศาสนา โดยมีทั้งสนับสนุน และไม่เห็นด้วยนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เผยแพร่สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ระบุว่า
1.ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)) ได้นำข้อมูลดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณา
1.1 ความคิดเห็นของพระภิกษุและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซด์ของสำนักงานฯ (www.krisdika.go.th) ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2561 เป็นระยะเวลา 7 วัน และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้รับหนังสือแสดงความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป สำนักงานพระสงฆ์ และองค์กรเครือข่าย
สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติฯ ได้ว่า การแก้ไขกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ โดยการกำหนดให้กรรมการมหาเถรสมาคม ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ จะทำให้ได้มาซึ่งพระภิกษุผู้มีความรู้ มีจริยวัตรที่ดีและมีพรรษาที่เหมาะสมได้เข้ามาปกครองดูแลคณะสงฆ์ ลดการเกิดระบบอุปถัมภ์ในหมู่คณะสงฆ์ อีกทั้งจะทำให้การปกครองคณะสงฆ์เป็นไปอย่างคล่องตัว และแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยว่าการบัญญัติให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคมจะเป็นการเพิ่มพระราชภาระแก่พระมหากษัตริย์โดยไม่สมควรหรือไม่ และต้องระมัดระวังไม่ให้นักการเมืองเข้ามามีอำนาจในการเสนอชื่อ เพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการมหาเถรสมาคม เนื่องจากนักการเมืองอาจใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง รวมทั้งควรคำนึงถึงหลักพระธรรมวินัยในการแต่งตั้งพระภิกษุผู้มีพรรษาน้อย หรือลำดับชั้นของสมณศักดิ์ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้มาทำหน้าที่ในการปกครองดูแลคณะสงฆ์
1.2 ในการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้รับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ผู้แทนมหาเถรสมาคม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)
2.สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)) ได้นำความเห็นที่ได้รับข้างต้นทั้งหมดมาประกอบการพิจารณาด้วยแล้ว อาจสรุปในส่วนที่เป็นสาระสำคัญได้ดังนี้ กรณีที่มีผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จะเป็นการเพิ่มพระราชภาระของพระมหากษัตริย์โดยไม่สมควรนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า บทบัญญัติที่กำหนดให้พระมหากษัตริย์ มีพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอนสมณศักดิ์ของพระภิกษุในคณะสงฆ์ รวมถึงการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการมหาเถรสมาคมนั้น เป็นพระราชอำนาจมาแต่โบราณกาลตามโบราณราชประเพณี ซึ่งรัฐธรรมนูญตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ได้บัญญัติรับรองไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก กรณีจึงเป็นพระราชอำนาจที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ มิใช่พระราชภาระที่กำหนดขึ้นเพิ่มเติมแต่ประการใด ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี คณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ) จึงได้แก้ไขถ้อยคำให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามความมุ่งหมายดังกล่าว
สำหรับความคิดเห็นของพระภิกษุและประชาชนทั่วไปที่ให้ความเห็นว่า ไม่ควรให้นักการเมืองมีอำนาจในการแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม เนื่องจากนักการเมืองอาจใช้เป็นเครื่องมือในการ
แสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) พิจารณาแล้ว เห็นว่า การที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการนั้น เป็นบทบัญญัติที่จะต้องกำหนดขึ้น
ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มีพระบรมราชโองการ ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการเช่นเดียวกับกฎหมายทั่วไปที่ได้กำหนดให้มีบทบัญญัติในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี