เจาะถ้ำหลวง
ทีมกู้ภัยมาร์ค3จุด-ลุยทันที
เผยฝนหนัก-น้ำท่วมมิด
ต่างชาติร่วมส่งทีมช่วย
ประยุทธ์ลงพื้นที่29มิ.ย.
ที่ประชุมศูนย์ประสานงานกู้ภัยมีมติให้เจาะถ้ำหลวง 3 จุด เพื่อช่วยเหลือนักเตะเยาวชนทีมหมูป่า เตรียมลงมือได้ทันทีหากได้ข้อยืนยันว่าจะไม่พังทลาย หลังพบอุปสรรค ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมสูง ทีมช่วยเหลือต้องเปลี่ยนแผน กระจายกำลังเดินเท้าออกค้นหา อีกส่วนปักหลักหน้าถ้ำรอน้ำลด หลายฝ่ายทั้งไทยและต่างชาติระดมกำลังช่วยเหลือเต็มที่ ขณะที่ นายกฯ บินลงพื้นที่ 29 มิถุนายน
คืบหน้าการค้นหานักเตะเยาวชนทีม “หมูป่า” อายุตั้งแต่ 11-16 ปี พร้อมผู้ฝึกสอน จาก ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวม 13 ชีวิต พลัดหลงอยู่ภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งปฎิบัติการเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 13 คนนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 00.15 น. วันที่ 28 มีนาคม ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้ระดับน้ำด้านในถ้ำสูงขึ้น เจ้าหน้าที่เร่งเสริมท่อสูบน้ำแข่งกับเวลา ขณะที่ทีมนักดำน้ำนานาชาติสลับเปลี่ยนถอนกำลังออกมากลับไปพักผ่อน โดยจะกลับเข้ามาใหม่ในตอนเช้า ส่วนหน่วยซีลยังอยู่ด้านในถ้ำ กระทั่งเวลา 05.00 น. ฝนก็ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และน้ำได้ซึมไหลจากด้านในออกมาด้านนอก จนทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยต้องยุติการทำงาน ถอนกำลังออกมาจากในถ้ำ ขึ้นไปอยู่ที่สูงชั่วคราว เพื่อรอกลับมาทำภารกิจต่อไป
ปรับแผนส่งจนท.ลุยป่าที่ผาหมี
ต่อมาในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้ทำการประชุมปรับแผนปฏิบัติงานกันใหม่ โดยแบ่งชุดทำงานออกเป็นหลายชุดประกอบด้วยการปรับพื้นดินหน้าถ้ำในช่วงแรก เจ้าหน้าที่ต้องนำหินคลุกมาลง เพื่อให้การทำงานในพื้นที่ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังแบ่งกำลังการค้นหาไปทางภาคพื้นดินโดยใช้เจ้าหน้าที่ชุดโรยตัวจากที่สูง ให้เริ่มเดินเท้าเข้าพื้นที่ดอยผาหมี ที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของถ้ำหลวง เพื่อค้นหาในป่าที่คาดว่าทั้ง13 ชีวิต อาจพลัดหลงไปในเส้นทางดังกล่าว
หน่วยซีลแบ่งกำลังขึ้นสำรวจภูเขา
ทางด้าน เฟซบุ๊กเพจ Thai NavySEAL ได้เผยความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือว่า ขณะนี้หน่วยซีลยังไม่สามารถดำน้ำเข้าไปในถ้ำได้ เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินกำลังของเครื่องสูบน้ำทั้ง 20 เครื่องที่สูบน้ำอยู่ ส่งผลให้น้ำดันขึ้นมาปิดโพรงถ้ำภายในหมด และน้ำไหลเอ่อออกมาถึงหน้าถ้ำ ทำให้ช่องทางเข้าภายในถ้ำถูกปิดลง ส่วนทีมนักดำน้ำมนุษย์กบหน่วยซีลส่วนหนึ่งได้เตรียมพร้อมรอ หากน้ำลดจนสามารถเข้าไปในถ้ำได้ก็จะเริ่มปฏิบัติการด้านในถ้ำอีกครั้ง ขณะเดียวกัน หน่วยซีลอีกส่วนหนึ่งได้กระจายกำลังเดินเท้าขึ้นภูเขาร่วมกับชาวบ้าน หาช่องทางอื่นที่อาจนำเข้าถึงตำแหน่งที่คาดว่าเด็กๆจะติดอยู่
ทีมมะกันเตรียมใช้เครื่องมือพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (United States Command – USPACOM) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 32 นาย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบรรเทาสาธารณภัย เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือค้นหา 13 ชีวิตสูญหายในถ้ำหลวง โดยนำเครื่องมือสแกนพิเศษด้วยดาวเทียม มาร่วมประชุมวางแผน คำนวณจุดที่คาดว่าเด็กอยู่แล้วติดตั้งเครื่องสแกนด้วยดาวเทียม ซึ่งผลการสแกนจะออกมาเป็นรูปภายในทั้งหมด หากพบกลุ่มเด็กก็จะออกมาเป็นรูปคนแล้วจะมีการเจาะที่บริเวณจุดนั้นเข้าช่วยเหลือ
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติร่วมสำรวจ
ด้าน นายโรเบิร์ต ฮาร์เปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจีพีเอส รวมทั้ง นายลาร์รี ลี ริสเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูปล่องอากาศ และ นายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ซึ่งเคยสำรวจถ้ำหลวงมาก่อนเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมเดินเท้าสำรวจพื้นที่กับทีม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เพื่อหาจุดหย่อนอาหารและโรยตัวเข้าไปด้านในถ้ำหลวง ช่วย 13 ชีวิตที่ติดอยู่ออกมาด้านนอก โดยเจ้าหน้าที่จะใช้การสันนิษฐานจากโพรงภายในถ้ำ หากตรงไหนมีโพรงใหญ่แสดงว่าเหนือบริเวณนั้น อาจจะมีปล่องอากาศอยู่ เบื้องต้นหากพบพิกัดแล้ว จะให้โดรนบินสำรวจดูโดยรอบว่าเจอปล่องตรงไหน จากนั้นจะให้สุนัขตำรวจดมกลิ่นเสื้อผ้าเด็กแล้วลงพื้นที่ช่วยค้นหาอีกทาง ทั้งนี้ จะเน้นการค้นหาเป็นแบบปูพรมขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ
ออสเตรเลียเตรียมมาช่วยอีกแรง
พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ยืนยันว่า อำนาจการตัดสินใจ และบริหารจัดการในพื้นที่ เป็นของ ผวจ.เชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการ ส่วนกองทัพ ได้ส่งกำลังที่มีอยู่ลงพื้นที่ไปตามความเหมาะสม และนอกจากกองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอุปกรณ์มาช่วยแล้ว ในส่วนของประเทศออสเตรเลียเตรียมที่จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาสาธารณภัย และอุปกรณ์มาช่วยเหลือเช่นกัน
ปภ.เสริมทีมค้นหาUSARกว่า100ราย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search and Rescue : USAR) เพิ่มเติม รวม 117 นาย พร้อมเครื่องมือสื่อสาร และอุปกรณ์ค้นหาและกู้ภัย เข้าสนับสนุนปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำ โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยที่มีความชำนาญในการค้นหาและกู้ภัยในที่สูง และ 2.ชุดปฏิบัติการด้านอุปกรณ์จะสนับสนุนภารกิจด้านไฟฟ้าส่องสว่าง เครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยอื่นๆ ขณะนี้ยังคงทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ปตท.สผ.ส่งโดรนช่วยค้นหา
ขณะที่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญ นำเทคโนโลยี อาทิ โดรน, หุ่นยนต์ว่ายน้ำ หรือหุ่นยนต์ภาคพื้นดิน เข้าสำรวจในถ้ำบริเวณเห็นหรือในเขตพื้นที่จำกัด โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีจะช่วยรองรับภารกิจนี้ได้ โดยเฉพาะโดรนที่นำมาขึ้นบิน สามารถสำรวจพื้นที่ พร้อมจัดทำภาพแผนที่สามมิติและสแกนความร้อน รวมถึงถ่ายภาพจากใต้น้ำได้ด้วย
“ศรีวรา”เยี่ยมญาติเยาวชน
อีกด้านหนึ่ง ที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวง วนอุทยานฯ อ.แม่สาย พล.ต.อ.ศรีวรา รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้นำแพทย์ จาก รพ.ตำรวจตรวจเยี่ยมญาติๆ ของเด็กๆ และตรวจประวัติผู้ป่วยของเด็กๆ เบื้องต้นพบเด็ก 2 คน มีประวัติหืดหอบ และอาการทางเลือดที่แพ้ยาบางชนิด จึงได้บันทึกข้อมูลประวัติเอาไว้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และพัฒนาสังคมฯ ได้มาดูแลพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ ที่หลายคนมีอาการอิดโรย อ่อนเพลีย และป่วยเป็นหวัด
รพ.เตรียมแพทย์พร้อมช่วยเหลือ
ทางด้าน พล.ต.ต ธนา ธุระเจน รองผอ.รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า ได้เตรียมแพทย์ 6 นาย เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ รถพยาบาล 4 คัน ทีมแพทย์ 4 ชุด เป็นหน่วยสนับสนุน หากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แจ้งมาเราก็พร้อมเข้าไปปฏิบัติทันที ทั้งนี้ ตามหลักแล้วการที่มีผู้เข้าไปอยู่ในถ้ำและไม่มีอาหาร 6 วัน หากเป็นเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งมีสภาพร่างกายแข็งแรงก็สามารถอยู่ได้ แต่สิ่งที่กังวลคือเรื่องสายตาที่มองความมืดและอากาศเย็นเราจึงต้องเตรียมการรองรับ ทั้งแว่นกันแดด ผ้าห่ม รวมทั้งเตรียมท่อหายใจแบบพิเศษรองรับด้วย
“อนุพงษ์”เผยเดินหน้า5แนวทาง
เมื่อเวลา 14.10 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เปิดแถลงข่าว หลังจากนำคณะขึ้นเครื่องบินเดินทางมาที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามการค้นหาเยาวชนนักฟุตบอลและโค้ช ที่ยังติดภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า เจ้าหน้าที่จะสูบน้ำออกจากถ้ำให้มากที่สุด เพื่อให้หน่วยซีลเริ่มปฏิบัติงานในถ้ำให้ได้โดยเร็ว ขณะที่เจ้าหน้าที่จากต่างประเทศได้ทำงานร่วมกันกับทีมของไทย และมีความเห็นตรงกันว่า ขณะนี้ยังเข้าไปในถ้ำไม่ได้เพราะระดับน้ำสูง ต้องทำให้น้ำลดลงก่อน อย่างไรก็ตามจากการสอบถามผู้ที่คุ้นเคยภายในถ้ำ ได้ให้ข้อมูลว่า น้ำที่เพิ่มขึ้นในถ้ำจะไหลออกมาทางปากถ้ำ ไม่ได้ไหลเข้าไปทางจุดเดินหาดพัทยา ที่คาดว่ากลุ่มเยาวชนจะติดอยู่ ส่วนการทำงานด้านภายนอกถ้ำ อยู่ระหว่างสำรวจปล่องต่างๆที่พบบนภูเขาเหนือถ้ำ ซึ่งขณะนี้มี 3 ปล่อง เจ้าหน้าที่เข้าไปได้ปล่องแรก 50 เมตร, ปล่องที่สอง 10 เมตร และปล่องที่สาม 20 เมตร โดยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ กรมทรัพยากรธณีจะใช้เครื่องมือในการตรวจสอบว่าสามารถทะลุเข้าไปในโพรงถ้ำได้หรือไม่
เสนอใช้วิธีเจาะผนังถ้ำ
รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมทรัพยากรธรณี ได้เสนอให้มีการเจาะผนังถ้ำด้านข้างเข้าไป ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบจุดที่จะเจาะ และการประสานเพื่อยกเครื่องมือในการเจาะขึ้นไป เพราะมีน้ำหนักหลายตัน ซึ่งต้องพิจารณาว่าจะยกขึ้นไปอย่างไร รวมทั้งดูจุดตั้งที่แน่ชัด ส่วนอีกจุดที่มีการสำรวจคือบริเวณปลายถ้ำ ซึ่งอยู่เลยไปจากจุดหาดพัทยา ที่พบว่ามีน้ำไหลออกมา จึงต้องตรวจสอบว่าจะขยายรูที่น้ำไหลออกได้หรือไม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปได้ ขณะที่อีกหนึ่งจุด คือบริเวณ ผาหมี ซึ่งเป็นต้นน้ำ เจ้าหน้าที่ ตชด.ได้ร่วมกับอุทยานกำลังไปดูว่า รอยแตกที่พบในบริเวณดังกล่าวจะสามารถทะลุเข้าไปภายในได้หรือไม่
เผยพบปล่องถ้ำ เตรียมเจาะด้านบน
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรธรณี ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนกับผู้เชี่ยวชาญส่วนต่างๆ ในการเจาะปล่องถ้ำหลวง ซึ่งจะเป็นการเจาะจากด้านบนของถ้ำหลวง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหาตำแหน่ง และแนวทางการยกเครื่องขุดเจาะขึ้นไปด้านบนด้วย อย่างไรก็ตาม พบภาพดาวเทียมจิสด้าที่เคยสำรวจไว้พบปล่องถ้ำ ขณะนี้พบว่าปริมาณน้ำในถ้ำยังสูงขึ้น จึงอยากให้ตัดสินใจในการเรื่องของการเจาะถ้ำโดยเร็ว
ชี้ต้องยอมทำลายถ้ำแลกชีวิตคน
นายทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า หลังจากทีมนักธรณีวิทยา ได้ร่วมกันวิเคราะห์ธรณีสัณฐาน และสร้างภาพจำลองสามมิติความหนาของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย พบว่ามีระดับความหนาของชั้นหินปูนตั้งแต่ 100-200 เมตร ซึ่งในทางเทคนิค บริษัทเอกชนขุดเจาะเหมืองสามารถทำได้ แต่อุปสรรคคือ การขนเครื่องจักรอุปกรณ์หนักไปหากต้องเจาะบนปากปล่องถ้ำหลวง ที่คาดว่าจะใกล้จุดหาดพัทยาบีช ซึ่งคาดว่า ทีมฟุตบอลเยาวชนจะไปอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าทางเลือกนี้ ต้องยอมทำลายถ้ำ และเสียรูปถ้ำเพื่อแลกกับชีวิตคน และถ้าลงมือต้องทำต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
เห็นชอบมติเจาะถ้ำช่วยเด็ก
ต่อมา นายนิวัติ บุญนพ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์ประสานงานกู้ภัยที่มี ผู้ว่าฯเชียงรายเป็นประธาน มีมติให้เจาะถ้ำหลวง โดยทีมงานจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะนำเครื่องวัดความต้านทานไฟฟ้ามาตรวจสอบพื้นที่ด้านบนถ้ำซึ่งเป็นจุดที่ตรงกับหาดพัทยาในถ้ำ ที่ประชุมส่วนใหญ่สันนิษฐานเด็กและโค้ชน่าจะพักอยู่ หากผลออกมาเป็นบวกก็จะดำเนินการเจาะถ้ำ โดยนำเครื่องมือเจาะของกรมทรัพยากรมาเจาะด้านบนของถ้ำ จะทำให้มีความกว้าง เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ลึก 120 เมตร จากนั้น จะนำกล้องทีวีหรือทีวีบอร์โฮลด์หย่อนเข้าไปเพื่อส่องจุดโพรงด้านใน ถ้าพบเยาวชนก็จะหย่อนน้ำอาหาร แต่ยัง ต้องรอผลสแกน ใช้เวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ถ้าไม่มีผลต่อการพังทลายของหิน และความลึกของหินขุดเจาะได้เลย จุดที่ต้องเจาะ มี 3 ตัว จุดตรงกับหาดพัทยา จุดหน้าปากถ้ำ และจุดด้านทิศใต้ของถ้ำ ที่มีน้ำมุด
“บิ๊กตู่”เตรียมบินด่วนเชียงราย29มิ.ย.
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีความเป็นห่วงเยาวชนทั้งหมด ซึ่งต้องเร่งรัดการค้นหา เพราะยิ่งเวลาผ่านไปนาน ยิ่งทำให้เกิดความกังวลใจมาก โดย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย ในวันที่ 29 มิถุนายน เวลา 07.00 น. โดยขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) และจะกลับถึง กทม.ในวันเดียวกัน เวลา ประมาณ 14.20 น.
ขณะที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะเดินทางลงพื้นที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย ในวันที่ 29 มิถุนายนด้วยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี