28 มิ.ย.61 พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานที่ จ.เชียงใหม่ มีพิธีเปิดศูนย์ฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านจังหวัดเชียงใหม่ โดยศูนย์แห่งนี้อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มคนไร้บ้าน 2 ปี (พ.ศ. 2559-2560) ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครม. 8 มี.ค. 2559 สะท้อนการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านของภาครัฐ อาทิ พม. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคประชาสังคม
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. โดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ ได้เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาวะคนไร้บ้านตั้งแต่ปี 2554 เพราะเห็นว่าคนไร้บ้านเป็นกลุ่มคนที่มีความเปราะบางและมีความเสี่ยงทางสุขภาพที่สุดกลุ่มหนึ่งของสังคมไทย ที่ต้องสนับสนุนทั้งในด้านการเข้าถึงสิทธิสุขภาพ สวัสดิการขั้นพื้นฐาน และการฟื้นฟูสุขภาวะให้สามารถตั้งหลักชีวิตด้วยตนเอง และกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้ จ.เชียงใหม่ เป็น 1 ใน 3 พื้นที่นำร่องการดำเนินงานสำคัญของ สสส. และภาคีเครือข่าย โดย สสส.หนุนเสริมศักยภาพภาคีเครือข่ายให้เกิดการบูรณาการทำงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมอื่นๆ รวมถึงสนับสนุนทางด้านองค์ความรู้ทางวิชาการทั้งในเชิงข้อมูลเชิงประชากรและตัวอย่างการดูแลฟื้นฟูและเสริมศักยภาพคนไร้บ้านทั้งทางด้านสุขภาพ และอาชีพที่ต้องมีความเหมาะสมกับระยะของการเข้าสู่ภาวะไร้บ้าน ทั้งกลุ่มเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะไร้บ้าน คนไร้บ้านหน้าใหม่ และคนไร้บ้านถาวร
เนื่องจากคนไร้บ้านในแต่ละช่วงมีลักษณะทางประชากรและระดับปัญหาทางสุขภาพที่แตกต่างกัน โดยจากการสำรวจล่าสุดเมื่อเดือน ก.พ. 2560 พบว่ามีคนไร้บ้านในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 75 คน แม้จะน้อยเมื่อเทียบกับคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ 1,307 คน แต่ก็มีสภาพปัญหาทั้งในทางคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่น่ากังวลกว่าคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ เช่น คนไร้บ้านเชียงใหม่ติดสุราสูงถึงร้อยละ 64 สูงกว่าคนทั่วไปมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 30
คนไร้บ้านเชียงใหม่สูบบุหรี่สูงถึงร้อยละ 62 ขณะที่คนทั่วไปที่สูบบุหรี่เป็นประจำมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 18 คนไร้บ้านเชียงใหม่กว่าร้อยละ 70 เป็นโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคกระเพาะ โรคมะเร็งปอด เป็นต้น นอกจากนี้ พบว่าคนไร้บ้านเชียงใหม่มีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูงประมาณร้อยละ 10 ถึงร้อยละ 20 ของคนไร้บ้านรวมในแต่ละปี สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดมาจากโรคปอดและการติดเชื้อทางเดินหายใจ สะท้อนให้เห็นว่าการอาศัยในพื้นที่สาธารณะเป็นความเสี่ยงทางสุขภาพที่สำคัญ
แปลงฝึกสอนปลูกผัก
“กระบวนการหนึ่งที่ สสส. ใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพคนไร้บ้าน คือ การชักชวนให้คนไร้บ้านที่ติดเหล้าติดบุหรี่ มาทดลองทำแปลงเกษตรปลูกผักปลอดสารพิษ ซึ่งพบว่าทำให้คนไร้บ้านลด ละ เลิกเหล้า บุหรี่ได้ในที่สุด นอกจากนี้ผลิตผลที่ปลูกได้ยังนำมาทำอาหารสำหรับตนเอง และแจกจ่ายคนไร้บ้านอื่นๆ ที่อาศัยในพื้นที่สาธารณะ ที่เหลือยังขายสร้างรายได้อีกด้วย” นางภรณี กล่าว
ขณะที่ นางนพพรรณ พรหมศรี เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย กล่าวว่า มูลนิธิฯ เป็นองค์กรที่ทำงานกับคนจนเมืองเป็นหลัก เริ่มทำงานในกรุงเทพฯ ด้วยเห็นว่าคนไร้บ้านเป็นคนจนเมืองที่จนที่สุด เป็นกลุ่มคนที่ประสบภาวะยากลำบากที่สุดกลุ่มหนึ่งของเมือง ด้วยความคิดที่ว่า “คนทุกคนสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้” ไม่ว่าจะจนหรือจะลำบากสักเพียงใด
การทำงานจึงเน้นในด้านของการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เน้นการเสริมศักยภาพ ที่ไม่ใช่การสงเคราะห์ เพื่อดึงศักยภาพของกลุ่มคนไร้บ้านออกมาจนสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ รวมถึงสามารถยกระดับในการเปลี่ยนแปลงสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะอื่นๆ ส่วนการทำงานที่เชียงใหม่ มูลนิธิฯ ได้เริ่มมาทำงานกับคนไร้บ้านที่เชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากคนไร้บ้านไม่ได้มีเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ในหัวเมืองอย่างเชียงใหม่และหัวเมืองอื่นๆ ก็มีคนไร้บ้านเช่นเดียวกัน
“การทำงานกับคนไร้บ้านในเชียงใหม่ มีกระบวนการและจุดเน้นเดียวกับการทำงานในกรุงเทพฯ ทั้งทำงานเพื่อการสร้างเครือข่าย และการเสริมศักยภาพ ซึ่งพิสูจน์ได้อยู่ว่า ถ้าเราทำงานเต็มที่เขาจะเป็นมีคนมีคุณภาพได้ ศูนย์คนไร้บ้านเชียงใหม่ในวันนี้ เป็นบทพิสูจน์เชิงรูปธรรมที่ชัดเจน เป็นการเสนอรูปแบบการพัฒนาจากเครือข่ายคนไร้บ้านและภาคประชาชนเป็นหลัก มีหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมเป็นเพียงคนสนับสนุน เป็นนโยบายจากล่างขึ้นบนที่แท้จริง” นางนพพรรณ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี