3 ก.ค.61 รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานแถลงข่าว “น้ำท่วม-น้ำแล้ง-น้ำขาด รับมืออย่างไรภายใต้แผนยุทธศาสตร์น้ำ 20 ปี” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ว่า สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนไป เช่น จากเดิมที่สภาพแล้งกับสภาพมีฝนหนักอาจเกิดขึ้นทุกๆ 3 ปี แต่ระยะหลังๆ พบว่าในปีเดียวกันอาจมีทั้งได้อากาศแล้งและฝนตกหนัก ซึ่งไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอะไรแต่แนวโน้มของธรรมชาติจะไปทางนี้
โดยสำหรับประเทศไทย เศรษฐกิจไทยที่คาดหวังกันไว้ว่าควรควรจะโตที่ร้อยละ 5 ทุกปี แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเจอน้ำท่วมปีหนึ่ง แล้งปีหนึ่ง ทำให้เศรษฐกิจโตเพียงร้อยละ 2-3 ต่อปี นั่นหมายถึงการบริหารจัดการน้ำที่ไม่ดีมีผลทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแกว่งตัว หากเปรียบในระดับบุคคล ก็เหมือนกับปีหนึ่งรวยแต่อีกปีหนึ่งจน ถ้าไม่เสี่ยงโชคด้วยการซื้อหวยก็ต้องเก็บเงินไว้ใช้ในช่วงที่ฉุกเฉิน เช่น เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็ต้องเอาไปใช้ซ่อมรถที่ถูกน้ำท่วม ต่อมาเก็บได้อีกก้อนก็ต้องทำแบบเดิมวนไปเรื่อยๆ แต่หากระบบส่วนกลางทำได้ดี ความเสียหายตรงนี้ก็ลดลง
รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์
“ปัจจุบันมีข้อตกลงที่เซนได (Sendai - เมืองในญี่ปุ่น) ว่าเราต้องลดความเสียหายชีวิตและทรัพย์สินลงครึ่งหนึ่ง เป็นข้อตกลงของโลกให้แต่ละประเทศแข่งขันกัน เราก็ไปไล่ดูว่าเสียหายชีวิตที่ไหน เสียหายเศรษฐกิจที่ไหน ส่วนใหญ่ก็ภาคกลาง แล้วก็อีอีซี (EEC-เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) หรือเมืองที่เติบโตอย่างเชียงใหม่ พวกนี้เราจำเป็นต้องรักษาให้เสียหายน้อยลง ส่วนคนข้างนอกอาจจะทำน้อยหน่อย แต่ว่ามีเตือนภัยให้เขาหนีน้ำได้ คือถ้าเราทำแผนที่ได้ แต่ละคนก็จะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างในเวลาน้ำแล้งหรือน้ำท่วม ความเสียหายก็จะลดลง” อาจารย์สุจริต กล่าว
นอกจากนี้ รศ.ดร.สุจริต ยังให้ความเห็นผ่านสื่อกรณีการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมฟุตบอล “หมูป่า” รวม 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระหว่าง 23 มิ.ย. -2 ก.ค.61 ซึ่งมีข้อถกเถียงกันระหว่างฝ่ายที่มองว่าช่วงนี้ฝนตกหนักเสี่ยงต่อน้ำหลากไม่ควรเข้าไปและเจ้าหน้าที่อุทยานปล่อยให้เข้าไปได้อย่างไร กับอีกฝ่ายที่มองว่าเรื่องนี้ไม่มีใครผิด เป็นเหตุสุดวิสัยเพราะป้ายห้ามเข้าถ้ำระบุว่าระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน แต่ทั้งหมดเข้าถ้ำไปในเดือนมิถุนายน ว่าระบบเตือนภัยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอาจต้องปรับปรุงเช่นกัน
“อันนี้ก็เป็นข้อเท็จจริง จากนี้ไปฤดูกาลไม่แน่นอนเหมือนในอดีต ดังนั้นป้ายเตือนอาจต้องเป็นระบบเปลี่ยนแปลงได้ หรือใช้เป็นตัววิ่งแทนตัวหนังสือที่เขียนตายตัว เพราะฤดูมันไม่แน่นอนแล้ว บวกลบหนึ่งเดือนกันปกติเลย” อาจารย์สุจริต ระบุ
ในวันเดียวกัน นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala” กล่าวถึงบทเรียนกรณีถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า เมื่อเจอทีมหมู่ป่าแล้วก็ควรปรับปรุงวิธีบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวที่มีอันตรายจากฤดูกาล กรณีนี้ควรปรับเวลาห้ามเข้าถ้ำโดยคำนึงถึงภาวะโลกร้อนที่ทำให้ฝนตกเร็วขึ้น โดยขยายเวลาห้ามเป็นตั้งแต่เดือน พ.ค.ถึง พ.ย.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี