5 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านแห่งหนึ่ง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปีโรงเรียนเดียวกัน โดยมีหลักฐานการแชทพูดคุยกันทางไลน์ของทั้งคู่ ซึ่งสนทนากันในเชิงชู้สาวข้อความหวานซึ้ง ต่างฝ่ายต่างเรียกกันและกันว่าที่รัก ขณะที่ตัวของ ผอ.โรงเรียน ก็เรียกน้องนักเรียนหญิงว่า เมีย
โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมนครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้แล้ว หลังได้ลงพื้นที่โรงเรียนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว มีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ลักษณะแอบคบหากันฉันชู้สาว พร้อมสอบปากคำคณะกรรมการสถานศึกษาคณะครู ผู้ปกครอง และเพื่อนของเด็กนักเรียนหญิงที่เป็นข่าว โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทางศึกษาธิการจังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับสั่งย้ายและพักราชการ ผอ.คนดังกล่าว และตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 9 คนพิจารณาความผิดด้วยความเป็นธรรมและกลั่นกรองตัดสิน ผอ.คนดังกล่าว ตามที่มีข่าวเสนอไป
ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา โดยมีพลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา และคณะอนุกรรมการ รวม 9 คน อาทิ นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา , นายทอง วิริยะจารุ กรรมการฯ ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน
โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดมีการถกกันอย่างรอบครอบให้ความเป็นธรรมอย่างที่สุด โดยเบื้องต้นในชั้นของคณะอนุกรรมการฯชุดใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์เสนอ ว่าให้ลงโทษวินัยร้ายแรงคือไล่ออก ส่วนประเด็นอาญาก็ให้ว่ากันไป หรือหากมีเรื่องอย่างอื่นก็ว่าไป ในส่วนนี้คือการหาหนทางดูแลเด็ก เนื่องจากเด็กถือว่ายังเป็นผู้เยาว์วัยอยู่และให้เด็กได้ศึกษาให้จบ ตรงนี้คือสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด
พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เรื่องการลงวินัยร้ายแรง ผอ.ให้ไล่ออก เราพิจารณาให้ความยุติธรรมด้วยความรอบด้านรอบครอบอย่างดีที่สุด ซึ่งเราดูจากเหตุจากผลของผลการสอบสวนที่ออกมา เราก็ว่าไปตามนั้น และยังมีคณะกรรมการสอบสวนที่เขตการศึกษาฯตั้งขึ้น เราได้นำมาพิจารณาประกอบการสอบสวนและคำให้การของแต่ละคนที่เราตั้งลงไปสอบสวนแล้วนำเข้ามาพิจารณาในชั้นของคณะอนุกรรมการชุดใหญ่วันนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก
จากนี้ไปก็จะเสนอคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา หรือ กศจ. ที่มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานโดยตำแหน่งอีกรอบในวันที่ 12 กรกฏาคม 2561นี้ ในส่วนของเราได้ข้อสรุปออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งถือว่าในชั้นของเราจบเพียงแค่นี้ ส่วน กศจ.จะตัดสินใจอย่างไรเป็นดุลยพินิจที่ประชุมใหญ่ต่อไป
'ตนเรียนว่า จริงๆก็คือคณะกลั่นกรองชุดใหญ่ ซึ่งคณะเราเหมือนกับเป็นคณะกลั่นกรองให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสอบสวนที่ กศจ. ได้ตั้งลงมา และขั้นต่อจากนี้ไปก็จะเสนอขึ้นไปให้กับ กศจ.นครราชสีมาตัดสิน ตรงนั้นจะถือเป็นที่สิ้นสุดว่า จะไล่ออกตามที่เสนอหรือไม่หรือ จะปลอดออก ก็มีเท่านี้'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี