"หมออุดม"เตรียมดึง"รร.วัดเกาะ"เข้าโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา พร้อมจัดอาหารมื้อเช้า-กลางวันให้นักเรียน
5 ก.ค.61 นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำคณะลงไปตรวจเยี่ยมโครงการอหารกลางวันของโรงเรียนวัดเกาะ ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาหารกลางวันนักเรียน และการจัดการศึกษา เพื่อเตรียมเข้าสู่โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership Schoบol) ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้พัฒนาโครงการอาหารกลางวันของ รร.วัดเกาะ อย่างมีคุณภาพให้เด็กได้รับประทาน โดยมีมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ เข้าไปช่วยสนับสนุนความรู้ และมีภาคเอกชนเข้าไปช่วยลงทุนสร้างแปลงเกษตรให้กับนักเรียน เพื่อนำผลผลิตที่ได้มาทำเป็นอาหารกลางวัน มีเพียงบางส่วนที่ต้องซื้อจากตลาด
"โรงเรียนวัดเกาะ มีการสร้างแปลงเกษตรให้เด็กๆ ช่วยดูแล โดยมีแนวคิดให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติ ไม่ใช่เรียนรู้เพียงวิชาการ แต่ให้เรียนรู้วิชาชีพด้วย เมื่อเด็กจบออกไปจะได้มีวิชาชีพติดตัว และที่เห็นผลมาก คือ นักเรียนปลูกเมล่อน โดยมีมูลนิธิมีชัยฯ และภาคเอกชน ร่วมให้ความรู้และให้ทุน แล้วให้นักเรียนคอยดูแลต้นไม้ของตนเองเป็นต้นๆ ทำให้เด็กมีความรู้นำไปเป็นอาชีพเสริม และครูยังสอนการทำเกษตร เลี้ยวสัตว์ สอนเกี่ยวกกับดินฟ้าอากาศ โยงไปวิชาฟิสิกส์ เคมี ในแปลงเกษตร จึงเป็นการบูรณาการความรู้ได้อย่างดี เด็กก็ชอบและสนุกมีความรู้ติดตัว พร้อมถ่ายทอดไปให้ผู้ปกครอง และนำผักที่ปลูมาเป็นอาหารกลางวัน ส่วนรายได้ก็แบ่งให้นักเรียน" รมช.ศธ.กล่าว
รมช.ศธ กล่าวต่อว่า สำหรับค่าอาหารกลางวันหัวละ 20 บาท ที่รัฐบาลสนับสนุนนั้น เมื่อวาน (4 ก.ค.) มีนักวิชการ ทดลองจัดเมนูอาหารตามโปรแกรม Thai School Lunch มีข้าวกล้อง ผัดถั่วฝักยาวใส่หมู ต้มยำไก่ใส่เลือดและเห็ดนางฟ้า ไข่เจียว ผลไม้มีสับปะรด และมีการคำนวนคุณค่าของอาหารให้เห็น และคำนวนเงินที่ใช้ในมื้อนั้น พบว่าใช้ต้นทุนเพียง 15.5 บาท ส่วนเงินที่เหลือ ก็ใช้เป็นค่าจ้างแม่ครัว 1 คน ดังนั้น ค่าอาหารกลางวันหัวละ 20 บาทเพียงพอ (ถ้าไม่โกง) และทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย จึงให้ สพฐ.จะนำรูปแบบของโรงเรียนวัดเกาะไปใช้ในการจัดอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนอื่นๆ ด้วย
นพ.อุดม กล่าวอีกว่า โรงเรียนวัดเกาะ กำลังได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ในเฟสที่ 2 ด้วย เนื่องจากโรงเรียนมีความพร้อม และผู้อำนวยการโรงเรียนมีความเข้มแข็งมาก มีจิตใจที่จะพัฒนา และไปเข้าร่วมอบรมกับมูลนิธิมีชัยฯ ทำให้เห็นถึงการพัฒนา การพึ่งตนเอง การนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้ผลจริง ทั้งที่โรงเรียนนี้ มีครูรวมผอ.เป็น 8 คน มีนักเรียน 177 คน ครูก็มีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนา เมื่อถามเด็กๆ ก็สนุก เป็นการเรียนแบบใหม่เชื่อมโยงกับชุมชน และยังช่วยให้เด็กมีอาหารกลางวันกิน ดังนั้น เมื่อ โรงเรียนวัดเกาะ เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาฯแล้ว ก็จะจัดอาหารมื้อเช้าให้กับเด็กๆ ด้วย เพราะมีภาคเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุน เนื่องจากเด็กส่วนมากมีฐานะยากจน จึงไม่ได้กินอาหารเช้ามาจากบ้าน รอมากินอาหารกลางวันที่โรงเรียน ซึ่งเด็กเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต หากได้รับประทานอาหารเช้าก็จะช่วยเสริมสร้างสมองและจะทำให้เรียนหนังสือได้ผลดีด้วย
"เป็นไปได้ว่า ต่อไปทุกโรงเรียน สพฐ.มีเพียง 3 หมื่นกว่าโรง จะจัดอาหารมื้อเช้าให้กับนักเรียนควบคู่กับอาหารมื้อกลางวัน แต่จะต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุน ที่ผ่านมาเราไม่ได้เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผมคิดว่าภาคเอกชนเขาอยากมาช่วย อยากคืนประโยชน์ให้กับสังคม เพราะไม่ได้ใช้เงินมากมาย แต่ผลที่ได้มีประโยชน์กับเด็กอย่างมาก ดังนั้น ถ้าเราเปิดช่องให้เอกชนก็จะช่วยให้มีการเรียนการสอนที่ดี มีผลลับที่ดีขึ้น เพราะการศึกษาคือการวางแผนอนาคตของชาติ และในรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ว่าให้ผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมดูแลจัดการศึกษาของประเทศ"
ด้าน นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวเพิ่มเติม ผู้บริหารโรงเรียนวัดเกาะ มีรูปแบบการบริหารจัดการอาหารกลางวันให้เด็กได้อย่างมีคุณภาพ เด็กกินอิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นการบริการจัดการที่ประสบความสำเร็จ โรงเรียนมีการปลูกพัก เลี้ยงไก่ และอื่นๆ เพื่อนำมาปรุงอาหารให้นักเรียน หากผลผลิตที่เด็กปลูกไม่เพียงพอก็ซื้อจากชุมชน ขณะนี้ มีภาคเอกชนเขามาสอนทำการเกษตรแนวใหม่ให้เด็กด้วย ทำให้โรงเรียนมีผลผลิตจำนวนมาก สามารถแบ่งไปจำหน่ายให้แก่คนในชุมชน ที่สำคัญการให้เด็กลงมือเพาะปลูก ถือเป็นการสอนให้เด็กมีทักษะการทำเกษตรอย่างถูกวิธี เมื่อเด็กเติบโตเด็กสามารถนำความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติไปสร้างอาชีพได้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี