วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“ขุนเกษตรา” รายงานตัวเล่าข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชายคาพระพิรุณเหมือนเดิมครับ...ต้นสัปดาห์ที่แล้วเราได้รับข่าวดีที่ทีมกู้ภัยเจอเด็กและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนหลังจากค้นหากันมาร่วม 9 วัน...เหตุการณ์นี้เราได้เห็นน้ำใจและความสามัคคีของคนไทย ที่ต่างมีจุดหมายเดียวกันคือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งหมด ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่...โดยกรมชลประทานได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการทำทางเบี่ยงน้ำ (Bypass) จนสามารถตัดยอดน้ำรวมกันได้ประมาณ 32,000 ลบ.ม./วัน ส่งผลให้ระดับน้ำในถ้ำหลวงได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการสูบน้ำถ้ำหลวง นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรม
ส่งเสริมการเกษตร บอกว่า จะยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 โดยต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย จำนวนพื้นที่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิงรายละไม่เกิน 30 ไร่ อัตราการช่วยเหลือ ข้าวไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ๆละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ ไร่ละ 1,690 บาท
ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่รับน้ำซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าว ทางกรมการข้าว โดยนายสุวัฒน์ เจียระคงมั่น
รองอธิบดีกรมการข้าว บอกว่า จากการสำรวจพบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล คือ ต.โป่งผา ต.สีเมืองชุม และ ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย มีพื้นที่ข้าวได้รับผลกระทบทั้งสิ้นประมาณ 1,397.5 ไร่ กรมการข้าวได้ประสานงานกับหน่วยงานของกรมการข้าวในพื้น ที่ให้จัดทีมเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับเทคโนโลยีการปลูกข้าวที่เหมาะสมหลังน้ำลด และประสานงานกับสำนักงานเกษตรอำเภอเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการสำรวจระดับความเสียหายของพื้นที่นาข้าวเพื่อเตรียมพร้อมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบนาข้าวเสียหายอย่างสิ้นเชิง...
ขุนเกษตรา เป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำงานกันอย่างเต็มที่ ทำให้เราได้เห็นศักยภาพรวมถึงเทคโนโลยีของหลายๆ หน่วยงาน ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้แพ้ใครในโลก และที่ต้องไม่ลืมคือน้ำใจของเกษตรกรที่ยอมเสียสละให้พื้นที่เกษตรของตัวเองเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งนับว่าเป็นความเสียสละอย่างใหญ่หลวงยิ่งนัก ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ควรดูแลเกษตรกรเหล่านี้อย่างดีและเหมาะสมที่สุดทั้งด้านการชดเชยและการฟื้นฟู
ขุนเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี