รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพที่เห็นมาอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น....การเมืองยังคงประเด็นของเรื่อง “ดูด” ที่ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กับผองเพื่อน “บูรพาพยัฆค์” จะปฏิเสธคนคอเป็นเอ็น ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ“ดูด”ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะแต่ละ“ย่างก้าว” ของพล.อ.ประยุทธ์ ทุกคนเห็นชัดเจนถึงการสืบทอด ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนต่อไป เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ จะเป็น “นายกรัฐมนตรี” คนใน หรือ คนนอกเท่านั้น...คนรวยกระจุก คนจนกระจาย นี่คือสภาพของประเทศไทย ในอุ้งมือของ คสช.ที่ ความยากจน กำลังกระจายไปทุกหย่อมหญ้า พ่อค้า แม่ค้า ขายสินค้าไม่ได้ ร้านรวง ปิดตัวโดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งพึ่งพาเงินทองจาก สวนยาง ประมง และสวนปาล์มน้ำมัน...วันนี้ราคายางเหลือ กิโลกรัมละ 40 บาท และในอนาคตอาจจะเป็น 3 โลร้อยมีคำถามจากชาวสวนยางถึง กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่าปัญหาราคายางสุดท้ายแล้วอยู่ที่ไหน และจะแก้อย่างไร เพราะทุกขบวนท่าของท่านคือความ“ล้มเหลว”จนเหลือแต่“ราคาคุย” เท่านั้น...ภาคใต้วันนี้เหลือเพียงการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติเท่านั้น ที่ยังพอจะ“อยู่ได้” แต่หลังจากที่“ทัวร์จีน” มา“ตายหมู่” ที่กลางทะเลเกาะภูเก็ต เพราะความประมาท ความเห็นแก่ได้ของ“ทัวร์ศูนย์เหรียญ” จะทำให้สถานการณ์ของการท่องเที่ยวทางทะเล เสียหาย นักท่องเที่ยวจะไม่กล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับการ ไร้การจัดการที่ดีพอ...งานนี้ นอกจาก เจ้าของเรือ นายท้าย นายทุน ที่เป็นเอกชนและเป็น“นอมินี” ของ นายทุนจีน ข้าราชการในพื้นที่ ทั้ง“เจ้าท่า” และหน่วยงานอื่นๆ ต้องรับผิดชอบด้วย โดยเฉพาะ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่มี “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช. ตร.ทท. ทำหน้าที่ปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ แสดงว่า ปราบไม่จริง หรือมีเรื่อง“แอบแฝง” จึงปล่อยให้นายทุนจีน ยังทำธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ เพื่อทำลายการท่องเที่ยวของไทย....อนาถนักกับ ชะตากรรมของชาวสวนยางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประสบปัญหายาง 3 โลร้อยยังจนไม่พอ เมื่อเจอกับ โจรใต้” วางระเบิดแสวงเครื่องในสวนยาง จน ขาขาด บาดเจ็บ ไปถึง 5 รายในเวลาเพียง 8 วัน ทำให้ไม่มีใครกล้าออกไป “กรีดยาง” ยิ่งเพิ่มเติมความจนให้มากขึ้น สุดท้าย คนไทยพุทธ ที่หากินกับสวนยาง อาจจะต้องทิ้งถิ่น เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่อง การ “สั่งการ”ของ 4-5 ตระกูล อย่างที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าใจ แต่เป็นเรื่องของ บีอาร์เอ็น สั่งการ วันนี้เรื่อง บีอาร์เอ็น ชาวบ้านรู้กันหมดแล้ว จึงอย่าพยายาม“ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” และเรื่องความเป็นความตายของ“ไทยพุทธ” เป็นเรื่องใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องใส่ใจ ให้มากกว่าเรื่อง “เด็กติดถ้ำ และ เรื่องนักท่องเที่ยวตาย 50 ศพ...น้ำมันเถื่อน ยังขายกันเกลื่อนทั้ง จ.สงขลา มีขายทุกอำเภอ แต่ตำรวจของ พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา มองไม่เห็น ฝากถึง พล.ต.วรพล วรพันธ์ ผบ.มณทลทหารบกที่ 42 สั่งการให้ชุด“ภัยแทรกซ้อน” ของ กอ.รมน. กวาดล้างอีกครั้ง...เช่นเดียวกับในตลาดปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ที่มีการนำ“ตู้สล็อต” มามอบเมาเยาวชนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะเจ้าของกิจการบอกว่า“จ่ายแล้ว” และถ้าจะจริง เพราะไม่เห็น เจ้าหน้าที่หน่วยไหนกล้าจับกุม ฝากถามถึง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภูสาระ ผบช.ภ.9 ว่า ถ้าท่านไม่อยู่ในข่าย“จ่ายแล้ว” กรุณาสั่งการให้ ตำรวจปาดังเบซาร์ จับกุมด้วย...ผ่างๆ มาจาก คนในเขตเทศบาลนครยะลา ฟ้องมาว่า มีบ่อนการพนัน เปิดกันเต็มเมืองถึง 4 แห่ง และมีนายตำรวจระดับ“นายพล” ให้การโอมอุ้ม และมีหุ้นส่วนด้วย เรื่องนี้คงต้องถาม พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.ยะลา ว่าเป็นอย่างที่ชาวบ้านฟ้องมาหรือไม่....หน้าฝนมาแล้ว สิ่งที่ติดตามมาคือปัญหาน้ำท่วม สำหรับพื้นที่สงขลา ปัญหาน้ำท่วมในหลายอำเภอมาจากเรื่อง“ทะเลสาบ” ที่ตื้นเขิน มีสิ่งกีดขวาง เต็มพื้นที่ โดยเฉพาะ“โพงพาง” ที่ เป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ข่าวว่า เงินค่าดำเนินการรื้อถอนเป็นล้าน ก็มาอยู่กับ หน่วยงานที่มีหน้าที่รื้อถอนแล้ว แต่ก็ไม่มีการดำเนินการ ดลเดช พัฒนรัฐ ผวจ.สงขลา ไม่คิดที่จะฝากผลงานชิ้น“โบแดง” จัดการกับเรื่อง“โพงพาง” ให้เป็นของขวัญชาวสงขลาก่อนเกษียณบ้างหรือ
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี