12 ก.ค.61 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย และกระทรวงเกษตรและป่าไม้ของประเทศภูฏาน ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนาความร่วมมือด้านการเกษตร โดยฝ่ายภูฏานได้เสนอโครงการส่งเสริมตลาดสหกรณ์โดยผ่านเกษตรพันธสัญญา เพื่อพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่าง 2 ประเทศ ซี่งได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการขยายความร่วมมือในด้านการพัฒนาสหกรณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพของสหกรณ์ในภูฏานให้มีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันสหกรณ์ในภูฏานส่วนใหญ่เป็นสหกรณ์ขนาดเล็ก มีสมาชิกแห่งละประมาณ 25 - 30 คน และยังขาดระบบบริหารจัดการที่ดี จึงทำให้ไม่มีความเข้มแข็งมากนัก โดยจะเชิญตัวแทนของสหกรณ์ภูฏาน และเกษตรกร 10 คน เดินทางดูงานในไทย ไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการสหกรณ์ขนาดเล็กที่ดำเนินธุรกิจ ด้านข้าวและโคนมของไทย ซึ่งสนใจมากเป็นพิเศษ เพื่อนำไปปรับใช้พัฒนาระบบสหกรณ์
ทั้งนี้ กรมได้ออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรมสหกรณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการฝึกอบรมสมาชิก เป็นหลักสูตรเดียวกับที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของสหกรณ์ขนาดเล็กของภูฏาน
พร้อมกันนี้ จะจัดหลักสูตรอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการตลาดทางการเกษตรและสหกรณ์ของภูฏานให้ด้วย หากภูฏานมีความต้องการ สำหรับการจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นในประเทศภูฏานนั้น ได้เริ่มต้นมาไม่นานนัก โดยได้มีการออกพระราชบัญญัติ สหกรณ์เมื่อปี 2552 ก่อนจะเริ่มจัดตั้งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเป็นครั้งแรกในปี 2553 ปัจจุบันมีสหกรณ์ทั้งสิ้น จำนวน 66 แห่ง กลุ่มเกษตรกร จำนวน 414 แห่ง และชุมนุมสหกรณ์ จำนวน 1 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรขนาดเล็ก ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตการเกษตร ทั้งปศุสัตว์ พืช ผักและผลไม้ เพื่อจำหน่ายตลาดภายในชุมชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี