จากกรณีที่มีรายงานว่าปัจจุบันพื้นที่ทางเท้าฟุตปาธสาธารณะ บริเวณหลังบ้านสุขาวดี ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีแนวติดกับทะเลตลอดความยาวนับร้อยเมตร ซึ่งเมืองพัทยาได้ดำเนินการไปจัดสร้างไว้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการสัญจร ปรากฏว่าปัจจุบันมีการนำภาพของพื้นที่ดังกล่าวไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลเน๊ตเวิร์ค โดยเป็นภาพที่มีผู้ประกอบการนำพื้นลักษณะเป็นหญ้าเทียมมาปูทับทางเท้าฟุตปาธสาธารณะดังกล่าวไว้ พร้อมการจัดทำบันไดขึ้นลงกินพื้นที่สาธารณะจำนวนหลายจุด
จนมีกระแสรวิพากย์วิจารณ์ถึงการกระทำดัง กล่าวกันเป็นอย่างมากว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่นั้น ซึ่งต่อมาเมืองพัทยาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและให้ดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน ขณะที่ปัญหาอื่นๆโดย เฉพาะกรณีของการที่เมืองพัทยาได้ร่วมกับสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาอำเภอบางละมุง เข้าทำการรังวัดพื้นที่เนื่องจากรับแจ้งว่ามีหลายส่วนที่เป็นพื้นที่ถนนสาธารณะและพื้นที่ทะเลซึ่งมีการถมไว้
โดยผลการตรวจพบว่ามีการก่อสร้างอาคารทับแนวถนนที่ทะลุต่อเชื่อมกับซอยบางละมุง 8 จึงได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนและทางบ้านสุขาวดีได้ให้ความร่วมมือดำเนินการไปแล้ว ยังเหลือในส่วนของอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่บนพื้นที่ที่ระบุว่าเป็นทะเล ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายนั้น
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ค.) นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายอธิพัชร์ ยิ่งศิริธัญรัฐ รองปลัดเมืองพัทยา นายมรุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศวกรโยธา นายธิปชัย รัตนวีระถาวร รักษการผู้อำนวยการส่วนผังเมือง หัวหน้าฝ่ายดูแลรักษาและคุ้มครองที่สาธารณะ เจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่เทศกิจ และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแนว ทางเดินเท้าฟุตปาธในบริเวณดังกล่าว
ซึ่งพบว่าหลังจากที่เมืองพัทยาได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นเพื่อห้ามไม่ให้มีการนำรถบัสขนาดใหญ่มาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวทางทางเดินเท้าฟุตปาธดังกล่าว ปัจจุบันสภาพแนวทางเดินเท้าถูกปูไว้ด้วยพรหมและหญ้าเทียมสีเขียวตลอดแนวความยาวหลายร้อยเมตร รวมทั้งมีการจัดบันไดขึ้นลงจากบ้านสุขาวดีลงมาที่ฟุตปาธ และการจัดตั้งเก้าอี้ไม้จำนวนหลายจุดตลอดแนวทางเดิน
ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตและถือเป็นการบุกรุกที่สาธารณะ จึงทำการสั่งให้ทำการรื้อถอนโดยทันที พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ในมาตรา 39 จึงทำการอายัดสิ่งของตรวจยึดมายังเมืองพัทยา เพื่อให้ผู้บุกรุกมาดำเนินการชำระค่าเปรียบเทียบปรับต่อไป
พร้อมกันนี้เมืองพัทยายังได้นำป้ายประกาศขนาดใหญ่เป็นประกาศเมืองพัทยา ระบุข้อความบริเวณนี้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ ผู้ใดบุกรุกหรือครอบครอง เป็นการกระทำความผิดฐานเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ต้องระวางโทษตามที่ประมวลกฎหมายที่ดินกำหนดไว้ จึงขอให้ดำเนินการรื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างบนที่สาธารณะตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ก่อนจะทำการปิดหมาย ค.7 หรือหมายคำสั่งรื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กรณีก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร กระทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ โดยทางเมืองพัทยาได้แจ้งความมา ยัง บ.เฮลท์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด โดยให้รื้อถอนอาคารโครงเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 25x61 เมตร จำนวน 1 หลัง ที่ใช้เป็นเวที ห้องครัว และป้ายขนาด 7X9 เมตรจำนวน 2 ป้าย โดยห้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 45 วันนับแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2561
นอกจากนี้ยังทำการปิดหมาย ค.4 ที่ห้ามมิให้บุคคลใดใช้อาคารหลังดังกล่าว และหมาย ค.3 เพื่อระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ตามาตรา 10 วรรค 1 และ มาตรา 41 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.ควบ คุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งปัจจุบันเมืองพัทยาได้มอบหมายให้นิติกรทำการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนิน การแต่งความดำเนินคดีตามลำดับ
นายวิเชียร พงษ์พาณิช รองนายกเมืองพัทยา เผยว่ากรณีนี้เมืองพัทยาตรวจสอบแล้วพบว่ามีปัญหาที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในหลายกรณี ทั้งในเรื่องของทางเดินเท้าที่ได้มีการนำเก้าอี้ไปวางก็ได้ให้ทางเทศกิจจัดเก็บไปแล้ว ส่วนอาคารก็ต้องรื้อถอนออกไปในระยะเวลาที่กำหนดคือ 45 วันตามขั้นตอนเนื่องจากพบว่าเป็นการบุกรุกที่สาธารณะ ส่วนพื้นที่อื่นๆนั้นที่มีการลุกล้ำนั้นทางเมืองพัทยาก็จะเดินหน้าเพื่อจัดระเบียบต่อไป สำหรับครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีตัวแทนของบ้านสุขาวดีออกมาพูดคุย หรือรับทราบเหตุการณ์แต่ทางเมืองพัทยาก็ได้ทำการปิดหมายพร้อมเดินตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี