วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมร่วมกับส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางการจัดการการท่องเที่ยวทางทะเลให้มีความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวโดยได้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์เรือล่มในจังหวัดภูเก็ตมาเป็นแนวทางในการดำเนินการ โดยกล่าวย้ำขอความร่วมมือส่วนราชการภาครัฐภาคเอกชนจะต้องมีความเข้มงวดในมาตรการของการปล่อยเรือท่องเที่ยวที่ออกเดินทางไปยังเกาะแก่งต่างๆ ก่อนที่จะทำการปล่อยเรือจะต้องส่งข้อมูลมายังจังหวัดภูเก็ต
"ประเด็นสำคัญที่จะต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ คือ การตรวจสอบคุณภาพของเรือต้องมีความพร้อม, ผู้ขับขี่เรือ (กัปตันเรือ) จะต้องมีความพร้อมและจำนวนผู้โดยสารจำนวนกี่คน โดยจะต้องมีการเก็บข้อมูลให้มีความถูกต้องชัดเจน ทั้งนี้ จังหวัดได้มอบหมายให้ DEPA จัดทำโปรแกรมเพื่อคีย์ข้อมูลของผู้โดยสารนักท่องเที่ยว โดยข้อมูลของผู้โดยสารและภาพรวมของเรือจะส่งต่อไปยังปลายทางที่เรือจะเดินทางไปด้วย" นายนรภัทร กล่าว
นายนรภัทร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต จากการที่บริษัททัวร์ได้ดำเนินการถ่ายภาพถ่ายของผู้โดยสารทุกคนไว้เป็นสิ่งที่สำคัญมากโดยภาพถ่ายดังกล่าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเปรียบเทียบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลประกอบกับการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ช่วยลดระยะเวลาการดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยจากนี้ไปจังหวัดภูเก็ต จะมีการจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ไปตรวจสอบการดำเนินงานของท่าเรือต่างๆ ในการปล่อยเรือออกไปท่องเที่ยวในทะเลอันดามันอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำผิดหรือไม่ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวได้เข้ามาสนับสนุนการทำงานของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสิ่งสำคัญวันนี้ คือ การแสดงความเสียใจ ช่วยเหลือเยียวยา การส่งกลับผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่เร่งดำเนินการในขณะนี้ รวมถึงการกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานต่างๆ มีการบูรณาการร่วมกันอยู่แล้ว
ในส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยทางทะเลระยะยาวนั้น นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตดำเนินการเข้มงวด มีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในเรื่องของการตรวจเรือ มาตรฐานความปลอดภัยของเรือ การตรวจเรือที่จะปล่อยออกจากท่าเรือได้นั้น จะต้องมีการตรวจอย่างเข้มงวด รวมถึงผู้ขับขี่เรือต่างๆ
สำหรับเรือทั้งหมดในภูเก็ตที่มีประมาณ 400 ลำนั้นตำรวจท่องเที่ยวจะบูรณาการร่วมกันตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในเรื่องของการตรวจเรือ จากวันนี้ไปจะตรวจเรือทุกลำใหม่ทั้งหมด เรือลำใดที่ไม่สมบูรณ์ ต้องให้เจ้าของกลับไปแก้ไข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ จากนี้ไปเรือลำใดออกจากฝั่งและมีการเช็คตรวจแล้ว หากเกิดเรือล่ม ผู้ตรวจเรือจะต้องรับผิดชอบ
"วันนี้นอกจากกรมเจ้าท่าจะต้องเข้มงวดเรื่องกฎหมายให้มากขึ้นแล้วในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ที่ดิน จะต้องไม่ให้มีการรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ หลังจากวันนี้ไปเจ้าหน้าที่ทุกส่วน รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยว จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทุกส่วนที่อยู่ในวงจรของธุรกิจท่องเที่ยวจะต้องมีความมั่นคงปลอดภัยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถแท็กซี่ต่างๆ จะต้องไม่มีการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ต้องดูแลทุกมิติและทำทั้งระบบ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมาแล้วอยากกลับมาอีก" รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี