ตำรวจภูเก็ตนำตัวเจ้าของเรือฟินิกซ์ ส่งศาลฝากขัง ค้านประกันตัว ความผิดฐานประมาท ด้านผอ.คปภ.แถลงจ่ายเยียวยา เหยื่อเรือล่มไปแล้ว 61 ล้าน
ความคืบหน้าเหตุเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต 47 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมากนั้น เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต (ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต) แถลงข่าวที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถึงการดำเนินคดีเจ้าของเรือว่า วันนี้ตำรวจจะนำตัว น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล อายุ 26 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัททีซี บลูดรีม จำกัด เจ้าของเรือฟีนิกซ์ไปฝากขังต่อศาลภูเก็ต โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านประกันตัว โดยดำเนินคดีความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 3 ราย
“ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายสมจริง บุญธรรม กัปตันเรือ ฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดภูเก็ตครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 1 วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ รายที่สอง นายอ่อนจันทร์ กัณหาโยธี ช่างเครื่องประจำเรือ จับกุมเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวมีหลักประกัน และรายสุดท้าย น.ส.วรลักษณ์ เจ้าของเรือฟินิกซ์ จับกุมเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีทั้งในฐานะส่วนตัวและนิติบุคคล ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธพนักงานสอบสวนควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ฉลองโดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวและกำหนดครบ 48 ชั่วโมงวันนี้ ก่อนนำตัวส่งศาลจังหวัดภูเก็ตต่อไป” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าว และว่า การสอบสวนพยานในส่วนเรือฟินิกซ์นั้น ได้สอบนักท่องเที่ยวและญาติผู้เสียชีวิต 15 ปาก สอบพนักงานประจำเรือ 10 ปาก เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 5 ราย และพยานบุคคลภายนอกอีก 10 ราย
พล.ต.ต.ธีระพลกล่าวต่อว่า ในส่วนเรือเซเรนาต้า ซึ่งไม่มีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจโดยดำเนินคดีกับนายเมธา หลิมสกุล ซึ่งเป็นกัปตันเรือ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว ผัดฟ้องต่อศาลแขวงภูเก็ต ครั้งที่ 2 ครบกำหนดวันที่ 18 กรกฎาคม และดำเนินคดีกับนายเผิง ต้าชิง ชาวจีน ผู้จัดการเรือเซเรนาต้า ข้อหาเดียวกันส่งตัวผู้ต้องหาไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ภูเก็ต ผัดฟ้องต่อศาลแขวงภูเก็ตครั้งที่ 2 ครบกำหนดวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งทั้ง 2 ราย ให้การปฎิเสธ โดยในส่วนของเรือเซเรนาต้า ได้สอบพยาน เป็นนักท่องเที่ยว 23 ปาก พนักงานประจำเรือ 4 ปาก เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 4 ปาก และบุคคลภายนอก 10 ปาก
ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนเรือฟินิกซ์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวลงเรือ 89 คน มีผู้เสียชีวิต 47 คน และรอดชีวิต 42 คน ในส่วนศพนักท่องเที่ยวรายสุดท้ายได้กู้ร่างขึ้นมาเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา และนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน ที่ให้การช่วยเหลือปฏิบัติการครั้งนี้อย่างเต็มที่
ขณะที่นายสมพงศ์ ปิ่นภักดี ผอ.คปภ.จังหวัดภูเก็ต ชี้แจงรายละเอียดการเยียวยาและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้ประสบภัยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน จากจำนวนผู้เสียชีวิต 47 รายได้ยื่นเอกสารกับบริษัทประกันภัยแล้ว 38 รายมีเอกสารครบและจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว 29 ราย รวมเป็นเงิน 31.1 ล้านบาท ส่วนของกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวฯจ่ายเงินเยียวผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ล้านบาท ฟื้นฟูจิตใจ 12 ราย เป็นเงิน 240,000 บาท หยุดชะงักการเดินทาง 11 ราย เป็นเงิน 880,000 บาท ในส่วนของเรือเซเรนาต้า 35 ราย จ่ายเงินเยียวยาฟื้นฟูจิตใจไป 700,000 บาท รวมเป็นเงินที่เยียวยาทั้งสองส่วนเป็นเงิน 61,9280,000 บาท สำหรับผู้ประสบภัยที่ยังไม่ยื่นหรือยื่นเอกสารไม่ครบ ได้ประสานกงสุลจังหวัดสงขลาเพื่อประสานญาติผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนหนึ่งกลับประเทศไปแล้วให้นำเอกสารมายื่นระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคม ที่รพ.วชิระภูเก็ต แต่ถ้ารายใดพร้อมมายื่นเอกสารได้เลย ส่วนรายสุดท้ายที่พึ่งกู้ร่างขึ้นมา ได้ยื่นเอกสารไว้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี