อุตุฯ-สสนก.ออกประกาศเตือนโซนร้อน “เซินติญ”ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากสะสมทั่วทุกภาคไปจนถึง 21 กรกฎาคม กทม.-ปริมณฑล 60% ของพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง ขณะที่หลายจังหวัดอย่างพิจิตร กาฬสินธุ์ เตรียมพร้อมรับมือ-เฝ้าระวังอุทกภัยใกล้ชืด
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานสภาพอากาศจากการประเมินโดยแบบจำลอง วาฟ-รอมระบุ พายุดีเปรสชั่น อิเลฟเว่น (eleven) แถบมหาสมุทรแปซิฟิคก่อตัวขึ้นด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ และเคลื่อนตัวผ่านหัวเกาะลูซอนลงทะเลจีนใต้ และทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนชื่อ พายุเซินติญ (SON TINH) ขณะที่ประเทศไทยยังมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือนตอนบน ทำให้ฝนตกหนักในขณะนี้ และการเคลื่อนเข้ามาของพายุเซินติญที่จะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และเคลื่อนเข้าสู่ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยเวลานี้ด้วย ล่าสุด ที่จ.นครพนม วัดปริมาณน้ำฝนได้มากที่สุดถึง 184.8 มม.
แบบจำลองสภาพอากาศของ สสนก.ยังระบุอีกว่า วันที่ 19 กรกฎาคม พายุเซินติญจะเคลื่อนที่เข้าร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบน ซึ่งจาก 2 สาเหตุ ยิ่งทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องในพื้นที่ ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนกระจายตัวเพิ่มขึ้น กับจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ด้านตะวันตกของประเทศ และภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะจ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ หนองบัวลำภู เลย ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครราชสีมา กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล รวมทั้งบางแห่งของสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช
ขณะเดียวกันลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังแรงอยู่ ที่ทำให้แนวปะทะของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในพื้นที่ด้านตะวันตกของไทย ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งภาคตะวันออกมีฝนตกหนักและหนักมากหลายแห่ง ที่ ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 291.8 มม.โดยคลื่นลมในทะเล อันดามันและอ่าวไทยสูงประมาณ 2-3 เมตร
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 23 เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
สำหรับประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
ประกาศดังกล่าว ยังระบุอีกว่า เวลา 10.00 น.วันนี้ พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนเซินติญ (SON-TINH) แล้ว คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ และขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 18-19 กรกฎาคม เริ่มมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ช่วงวันที่ 19-21 กรกฎาคม ทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับผู้จะเดินทางไปเกาะไหหลำ และเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย
สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล เวลา 06:00 น.วันนี้ - 06:00 น.วันที่ 18 กรกฎาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
อีกด้านหนึ่ง หลายจังหวัดต่างเตรียมพร้อมรับมือฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง หลังมีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา โดยนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรกล่าวว่า หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องหลายวันได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 12อำเภอ จ.พิจิตร ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะ 4 อำเภอคือ อ.สากเหล็ก วังทรายพูน ทับคล้อ และดงเจริญ ซึ่งอยู่ใกล้เทือกเขาเพชรบูรณ์ ให้เฝ้าระวังใกล้ชิด เพราะอาจถูกน้ำป่าหลากเข้าท่วม บ้านเรือนไร่นาเสียหาย โดยขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
วันเดียวกัน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 ขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดอบรมชุดเผชิญเหตุ (OTOS)ประมาณ 1,000 นายเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ที่อาจเกิดซ้ำรอยปี 2560 หลังอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนตกหนัก โดยที่จ.กาฬสินธุ์ เกิดน้ำป่าท่วมพื้นที่การเกษตรวงกว้าง และเติมเข้าอ่างเก็บน้ำหลายล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว
โดยนายสุเทพ มณีโชติ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่นกล่าวว่า สัปดาห์นี้ได้รับรายงานว่าพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้างจากฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วม เช่นเดียวกับ พื้นที่ราบและแหล่งน้ำสาขารับน้ำจนอิ่มตัว และเพิ่มปริมาณมากขึ้นหลายล้านลูกบาศก์เมตร มีแนวโน้มเกิดภาวะน้ำท่วมเหมือนปี 2560 โดยจุดเสี่ยงหลายแห่งได้ประกาศให้ติดธงแดงเฝ้าระวังอันตราย ดังนั้น เพื่อเตรียมรับมืออุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น จึงจัดอบรมเจ้าหน้าที่นำร่องแห่งแรกในเขตอ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยใช้เหตุการณ์น้ำท่วมหนักปี 2560 เป็นกรณีศึกษา ก่อนขยายให้ครอบคลุม 135 ตำบลใน 18 อำเภอของจ.กาฬสินธุ์ รวมถึง 4 จังหวัดคือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วม โดยมีแม่น้ำสายใหญ่คือลำน้ำพอง ลำน้ำชี ลำน้ำปาว และลำห้วยสาขาต่างๆจึงต้องเฝ้าระวังเข้มตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี