ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจครอบครัวน้องสโนว์ เหยื่อผู้ใหญ่บ้านหื่น หลังทราบข่าวศาลอุทธรณ์ยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้นประหารชีวิต ขณะที่แม่จุดธูปบอกลูกสาวหลังสู้คดีมายาวนานกว่า 2 ปี 7 เดือน
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ อายุ 18 ปี หรือน้องสโนว์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประจำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงเรียนแล้วพยายามข่มขืน บริเวณทางเข้าบ้านโนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 94 บ้านโนนเมือง ม.12 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ อายุ 18 ปี หรือน้องสโนว์ มีญาติและเพื่อนบ้านต่างๆเดินทางมาให้กำลังใจกับนายกฤษณ์ นางลำใย พลประสิทธิ์ พ่อและแม่ น้องสโนว์ หลังทราบข่าวที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ผู้ต้องหารับโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจและสะเทือนขวัญ อีกทั้งไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก
โดยหลังจากเข้ารับไปรับฟังการอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นางลำใย พลประสิทธิ์ แม้น้องสโนว์ ได้จุดธูปบอกข่าวกับดวงวิญญาณของลูกสาวต่อหน้าภาพถ่ายที่ยังคงติดอยู่ตามฝาผนังบ้านและตู้เสื้อผ้า เพื่อบอกความคืบหน้าในการสู้คดีของครอบครัวมายาวนานกว่า 2 ปี 7 เดือน หรือกว่า 935 วันหลังเกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2558 อีกทั้งยังเข้าไปในเฟชบุ๊คของลูกสาว เพื่อขอบคุณทุกๆคนที่มาให้กำลังใจ
นางลำใย กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวจากไปครอบครัวยืนยันที่จะสู้ เพื่อน้องสโนว์อย่างถึงที่สุด เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งน้องสโนว์เองก่อนเสียชีวิตก็ยังสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง กระทั่งวันนี้มีความคืบหน้าของคดีถึงขั้นตอนของศาลอุทธรณ์แล้ว ทำให้ครอบครัวพลประสิทธิ์มีกำลังใจและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
“แต่ในฐานะผู้เป็นแม่ ขอให้ลูกสาวไปสู่สุคติสรวงสวรรค์ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ขอจงไปสู่สรวงสรรค์ เพราะถึงอย่างไร ครอบครัวก็จะสู้เพื่อน้องอยู่แล้ว ซึ่งหากบุพเพวาสนามีจริง ชาติหน้าก็ขอให้น้องสโนว์กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีก ในส่วนของคดี กรรมใดที่ใครก่อ คงจะต้องได้รับผลกรรมนั้น ไม่ต้องถึงชาติหน้า ซึ่งเป็นบทลงโทษของกฎหมายก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองเป็นครั้งสุดท้าย”นางลำใย กล่าว
ด้านนางสุพัต ศรีรักษา อายุ 51 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า หลังจากเหตุน้องสโนว์ถูกทำร้ายและเสียชีวิตเข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นแม่ เพราะต้องสูญเสียลูกอันเป็นที่รัก ทั้งที่เด็กจะต้องมีอนาคตที่สดใสในวันข้างหน้า เพราะน้องสโนว์กำลังจะไปเรียนต่อพยาบาล เพื่อช่วยเหลือคน แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนในฐานะเพื่อนบ้านก็รู้สึกช๊อค จึงต้องเข้ามาเป็นเพื่อนปลอบใจ และให้กำลังใจกับครอบครัวนี้ อย่างไรก็ตามการที่ผู้ต้องหาได้รับโทษในครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามบุญ ตามกรรมที่ใครก่อไว้ก็ต้องได้รับผลกรรมนั้น ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวใดอีก เพราะมันเป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดและจดจำตลอดชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี