พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวหลังเป็นประธานประชุมสรุปผลการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวทั่วประเทศ หลังปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ว่า จากการลงเบียนประวัติมีแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบ 1,187,803 คน คิดเป็นร้อยละ 90 แบ่งเป็นกัมพูชา 350,840 คน ลาว 59,746 คน เมียนมา 777,217 คน และหลังจากปิดศูนย์แล้วกระทรวงร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ 113 ชุด เข้าตรวจสอบการทำงานของทั้งนายจ้างอย่างสุภาพนุ่มนวล ตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.ค. 2561 โดยตรวจสอบนายจ้าง 1,623 ราย จับกุมดำเนินคดีแล้ว 156 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.61และตรวจสอบแรงงานต่างด้าวแล้ว 30,111 คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว816 คน คิดเป็นร้อยละ 2.17 ส่วนใหญ่เป็นเมียนมา 415 คน กัมพูชา 267 คน ลาว 78 คน เวียดนาม 36 คน และสัญชาติอื่นๆ20 คน และวางแผนตรวจสอบอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 1-15 ส.ค. และวันที่ 1-15 ก.ย.นี้ จึงขอเตือนนายจ้างและแรงงานต่างด้าวให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะหากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำและปรับ
ด้านนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า จากการจับกุมผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงานหาบเร่ แผงลอย ลอบเป็นเจ้าของกิจการเอง ซึ่งเรายังไม่อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวทำได้ ทั้งนี้ จะเห็นว่าบทลงโทษหนักมาก ดังนั้นขอแนะนำว่าตอนนี้หากแรงงานต่างด้าวไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ให้กลับประเทศไปก่อน หากยังต้องการทำงานในประเทศไทยก็ขอให้เข้ามาใหม่ผ่านระบบเอ็มโอยู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี