วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตในภาครัฐ (เลขาธิการ ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และคณะกรรมการอิสระต่อต้านการทุจริตของฮ่องกง ได้ทำข้อตกลงระหว่าง 2 หน่วยงานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย
หลังจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจแล้วถูกเรียกรับผลประโยชน์หรือต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งที่ผ่านมาพบมีการรับเรื่องร้องทุกข์จากนักธุรกิจต่างชาติประมาณ 30 เรื่องซึ่งหลายเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ในจำนวนนี้มี 2 เรื่องที่ ป.ป.ท.ได้เสนอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงไปแล้ว 2 เรื่อง คือ คดีนายสงบ หอมสมบัติ และนายไพโรจน์ ทินโน เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตปทุมวัน กทม.กรรโชกทรัพย์ชาวต่างชาติบริเวณคลองหลอด เมื่อปี 2559 และคดีทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียในพื้นที่ สภ.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ปี 2558 โดยคดีนี้ ป.ป.ท.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น จนมีการตั้งคณะอนุกรรมการฯไต่สวนข้อเท็จจริง
"เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงฯ ชุดดังกล่าว ป.ป.ท.ได้มีการพิจารณาคดีเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ทำร้ายนักท่องเที่ยวแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าที่ผ่านมาทาง กทม.ได้ลงโทษเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวด้วยการไล่ออกแล้วก็ตาม แต่ในส่วน ป.ป.ท.จะต้องดำเนินการทางวินัยและอาญาด้วย" เลขาธิการฯ ป.ป.ท.กล่าว
พ.ท.กรทิพย์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ มีกลุ่มผู้ลงทุนต่างชาติ ทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ถือหุ้น หรือร่วมทุนในบริษัทต่างชาติให้ความสนใจ และส่งเรื่องร้องทุกข์เข้ามา ทั้งเรื่องปัญหายาเสพติด การถูกเรียกรับสินบนจากเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้อำนวยความสะดวกให้ การถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกายฯลฯ ดังนั้น การมีองค์กรต่างประ เทศเข้ามาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องต่างๆ ให้กับนักธุรกิจที่ประสบปัญหาดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาคอรัปชั่นได้มากขึ้นและทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะการประเมินดัชนีภาพลักษณ์การคอรัปชั่นในภาครัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี