วันนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา สมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู (องค์กรสาธารณประโยชน์) หรือ สมออน. ที่มีนายคำพันธ์ พระเอก เป็นนายกสมาคมฯ ได้มีการประชุมคณะกรรมการและสมาชิกเพื่อปรึกษาวางแนวทางการปฏิบัติของครูในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองบัวลำภู กรณีที่กลุ่มวิชาชีพครูรวมตัวประกาศปฏิญญามหาสารคาม เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสิน พักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป พร้อมชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค.ทั่วประเทศ 450,000 คน ร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้
โดย สมออน.ได้มีกาสรออกแถลงการณ์คัดค้านปฏิญญามหาสารคาม โดยมีเนื้อหาระบุว่า ทางสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู มีมติว่า 1.ไม่เห็นด้วยกับปฏิญญามหาสารคามโดยสิ้นเชิง 2.ปฏิญญานี้นำมา ซึ่งความเสื่อมเสียซึ่งศักดิ์ศรีและจริยธรรมของความเป็นครู ผู้ที่สังคมยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลอย่างยิ่ง 3.ปฏิญญานี้เป็นเพียงข้อเรียกร้องของคณะครูจำนวนหนึ่งในจังหวัดมหาสารคามเท่านั้น ไม่ใช่ของคณะครูทั่วประเทศแต่อย่างใด และ 4.ขอเรียกร้องให้คณะครูทุกคน รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป ภายใต้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นครูอย่างแท้จริง
นายคำพันธ์ กล่าวด้วยว่า ทางสมาคมไม่เห็นด้วยกับปฏิญญานี้เนื่องจากจะเป็นการผิดสัญญาของคณะครูที่ไปเป็นหนี้ เพราะการเป็นหนี้ผู้เป็นหนี้ต้องมีหน้าที่ในการชำระหนี้ ถ้าครูไม่ชำระหนี้ผลกระทบที่ตามมา ถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้อง อาจถึงขั้นรุนแรงเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งหากเป็นตามนั้นจะกระทบต่อศักดิ์ศรีและสิทธิหน้าที่ของครู ความเป็นครูก็จะสิ้นสุดลงและอาจจะส่งผลกระทบไปยังนักเรียนนักศึกษา ที่กู้เงิน กยศ.มาเรียน เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ที่จะขอไม่ชำระหนี้ เพราะครูเป็นผู้ที่มีหน้าที่หล่อหลอมเยาวชนให้เป็นคนดี
จวก "ปฏิญญามหาสารคาม" ทำให้แก๊งทวงหนี้ตื่น
ด้านข้าราชการครูในพื้นที่ภาคเหนือกลุ่มหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เปิดเผยถึงกรณีที่ครูทั่วประเทศเป็นหนี้กับสถาบันการเงินว่า ที่ผ่านมาพวกตนไม่เคยเป็นหนี้สถาบันการเงิน โดยเฉพาะธนาคารออมสินมาก่อน แต่ตอนนี้พวกตนต้องเป็นหนี้รวมแล้วเกือบ 7 แสนบา ร่วมกับเพื่อนครูด้วยกัน 3 คนทั้งๆ ที่ไม่เคยไปกู้เงินจากที่ไหนมาก่อน แต่หนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการใจดีไปค้ำประกันให้กับเพื่อนครูด้วยกัน เพราะทางธนาคารจะมีกฎว่าถ้าครูคนไหนอยากกู้เงินจะต้องไปหาคนมาค้ำประกัน เมื่อเพื่อนครูมาขอร้องให้พวกไปช่วยค้ำประกันให้ตนก็ใจดีไปค้ำประกันให้ แต่พอมาภายหลังครูคนที่เราค้ำประกันให้เป็นหนี้มากขึ้นและได้ลาออกหนีไปปัญหาจึงตกอยู่ที่พวกตนต้องรับผิดชอบหนี้ที่คนอื่นก่อขึ้นในฐานะนายประกัน
"ตอนนี้ทางทนายความที่ได้รับมอบอำนาจากธนาคารได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้เราทั้ง 3 คนไปชำระหนี้ที่ค้างไว้เกือบ 7 แสนบาท โดยยื่นคำขาดกับว่าถ้าไม่เช่นนั้นก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงทำให้ตอนนี้เกิดความเครียดมาก ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่มีขึ้นเฉพาะที่โรงเรียนนี้เท่านั้นจากการสอบถามเพื่อนครูไปยังโรงเรียนต่างๆ หลายคนก็ตกที่นั่งเดียวกัน ครุบางคนเป็นทั้งหนี้สหกรณ์ สถาบันการเงิน และโครงการจากเงินกู้ต่างๆ คนที่มีกำลังผ่อนได้อยู่ก็ผ่อนไป ส่วนใครที่ไม่มีกำลังผ่อนก็หนีไปเลย คนที่ค้ำประกันก็ต้องรับภาระไป ซึ่งบางคนไม่เคยไปกู้ที่ไหนเลย แต่กลับเป็นหนี้ถึงหลักล้านบาทก็มีเพราะไปเป็นนายประกัน เชื่อว่ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับครูทั่วประเทศ" ครูหนึ่งกล่าว
ครูคนเดียวกันนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า การที่กลุ่มวิชาชีพครูรวมตัวประกาศปฏิญญามหาสารคาม เหมือนกับไปกระตุ้นให้ทางสถาบันการเงินตื่นตัวมอบอำนาจให้ทนายความเร่งตามทวงหนี้ครูเร็วขึ้น ทั้งๆ ที่เรื่องของพวกตนก่อนหน้านี้ทางสถาบันการเงินหายเงียบไปนาน จนตนเข้าใจว่าคงตามตัวครูที่หนีหนี้ได้แล้ว หรือครูคนดังกล่าวนำเงินไปจ่ายแล้ว แต่พอมีปฏิญญามหาสารคาม ออกมาจดหมายตามทวงหนี้ก็มาถึงพวกตนเลย
ครุใต้ชี้หนี้สินครูสะท้อนปัญหาผู้มีอำนาจต้องย้อนคิด
ด้านนายประทุม เรืองฤทธิ์ เลขาธิการสมาพันธ์ครูภาคใต้ กล่าวว่า ขอให้สังคมและรัฐบาลมองอีกด้านหนึ่ง ไม่ใช่ตราหน้าครูไม่มีวินัยทางการเงิน ฟุ่มเฟือย จ่ายเกินตัว เลยเถิดไปถึงต้องจัดหลักสูตรการบริหารการเงิน หนี้สินครูมันเป็นวิกฤตวิชาชีพครูที่สะท้อนปัญหาที่ผู้มีอำนาจต้องย้อนคิด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับวิชาชีพครู เกษียณแล้วยังยากจน เงินเดือนลดหายเกือบครึ่ง ไม่มีอะไรเหลือ รัฐจะช่วยเหลือคนกลุ่มครูเกษียณอย่างไร เพราะกลุ่มครูที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้เป็นกลุ่มเกษียณ โดยไม่มีการเมืองแอบแฝง ในความเป็นปัจเจกชน เมื่อมีหนี้สินต้องจ่าย อันเป็นธรรมดาของการมีหนี้สิน แต่เมื่อหลายๆ ปัจเจกรวมกันเป็นกลุ่มก้อนในปัญหาเหมือนๆ กัน มิใช่จริตหมู่ แต่เป็นเรื่องที่น่าขบคิดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร อย่ามองปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มครู
"ภาวะความเป็นครูในท่ามกลางความขาดแคลน รัฐจะช่วยอย่างไรนี่คือคำถามที่ให้ผู้มีอำนาจต้องหาคำตอบ ผมยอมรับว่า ครูมีหนี้สิน แต่การเกิดหนี้ของครูมาจากหลายปัจจัย ปัจจัยที่เกิดหนี้เพื่อโรงเรียนและนักเรียนไม่น้อยเช่น ซื้ออุปการณ์การเรียนการสอนเช่นโน๊ตบุ๊ก ครูต้องเอาเงินส่วนตัวซื้อ เพื่อมาใช้ประกอบการเรียนการสอนนักเรียน มีงานส่วนรวมที่โรงเรียน ชุมชนเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อมีงานบุญงานกุศลในชุมชน ครูต้องควักเงินส่วนตัวช่วย" นายประทุม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี