21 ก.ค.61 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) มอบให้หน่วยงานของกองทัพบกที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย สรุปข้อมูลการปฏิบัติงานในภาพรวม ทั้งด้านการใช้ยุทโธปกรณ์ การบริหารจัดการกำลังพล วิธีการค้นหากู้ภัย เพื่อใช้ประโยชน์เป็นฐานข้อมูล เป็นแนวทางและวิธีการในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยในโอกาสต่อไป รวมทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพบกให้เท่าทันต่อเหตุวิกฤตต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังมีนโยบายให้หน่วยทหารเร่งพัฒนาทักษะกำลังพล ให้มีความสามารถในการปฏิบัติงานในภาวะเสี่ยงและยากลำบากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ในลักษณะเป็นผู้ชำนาญการพิเศษ เพื่อให้สามารถนำความเชี่ยวชาญดังกล่าวไปใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย หรือเหตุการณ์วิกฤตในอนาคต อาทิ การดำน้ำกู้ภัย การเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุด้วยวิธีเฉพาะ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสานต่อและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการในภาวะวิกฤต ตามแนวนโยบายข้างต้น ผบ.ทบ. มอบให้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ระบบการจัดการบริหารเหตุการณ์วิกฤต” ในวันที่ 24 ก.ค.61ณ แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(นสศ.)ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี โดยเชิญผู้สัมมนาที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหากู้ภัยที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย อาทิ สำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 13(ทีมรังนกจากเกาะลิบง) , ทีมสำรวจและขุดเจาะถ้ำ จาก ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ /บริษัทChevron (Thailand)/ บริษัท Water Resource Engineering ,บริษัทจีโอเมคคานิคอล เซอร์วิสเซศ จก.,สมาคมกู้ภัยภูซางการกุศล จ.พะเยา (ฝ่ายสื่อสารภายในถ้ำ),จิตอาสาและอาสากู้ภัย(ฝ่ายลำเลียงสนับสนุนภายในถ้ำ) , คณะที่ปรึกษาทางทหารสหรัฐประจำประเทศไทย,สถานทูสหรัฐ, ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล, หน่วยงานภายในและกรมฝ่ายเสนาธิการของกองทัพบก เป็นต้น
การสัมมนาประกอบด้วยการบรรยายและสาธิต “การจัดการบริหารเหตุการณ์วิกฤต” โดยผู้แทนศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล, การบรรยายผลการปฏิบัติงานและบทเรียนที่ได้รับสู่การเตรียมความพร้อมในอนาคตโดยหน่วยที่ร่วมภารกิจ รวมทั้งการจัดกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ เช่น “ประชารัฐร่วมใจ ค้นหา/กู้ภัยทีมหมูป่า” , “จัดการอย่างไรเมื่อต้องเอาชนะธรรมชาติและแข่งกับเวลา” และ “บทเรียน สู่องค์ความรู้ : Best Practice” ทั้งนี้ กองทัพบกเชื่อว่าการสัมมนาดังกล่าวจะช่วยสานต่อความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนในสถานการณ์วิกฤตต่อไป
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ในเหตุการณ์ช่วยเหลือ 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน กองทัพบกได้ส่งกำลังพล 1,323 นาย จาก กองทัพภาคที่ 3, หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, ศูนย์การบินทหารบก, มณฑลทหารบกที่ 37, กองพลทหารราบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 7, กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์, กองกำลังนเรศวร, กองกำลังผาเมือง และกรมแพทย์ทหารบก ภายใต้การอำนวยการจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก พร้อมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย อาทิ เอลิคอปเตอร์ แบบ MI 17, เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ,เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค , รถครัวสนาม และโรงพยาบาลสนามเคลื่อนที่ เข้าร่วมปฏิบัติการในระหว่าง 23 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม 2561
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี