สสส.-สคล.ชวนช่วยเชียร์ นักดื่มให้งดเหล้าครบพรรษา ปูพรมค้นหา เยียวยา บำบัดทั่วไทย ชี้รณรงค์ต่อเนื่อง 16 ปี ได้ผล ช่วยคนลด ละ เลิกดื่ม เพิ่มขึ้น ชี้ปีที่ผ่านมาคนร่วมงดเหล้ามากกว่า 14 ล้านคน ประหยัดเงินค่าซื้อสุรา 11,243 ล้านบาท
26 ก.ค.61 ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2561 ภายใต้แนวคิด “พลังมด...ชวนงดเหล้าครบพรรษา” จากนั้นร่วมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “พลังมด VS ปีศาจสุรา” และเดินแจกสื่อรณรงค์บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ
ดร.สุปรีดา กล่าวว่า สสส.และ สคล.ริเริ่มโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาตั้งแต่ ปี 2546 และทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 จากผลการประเมินโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2560 โดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) พบว่า มีผู้งดเหล้าเข้าพรรษาทั้งสิ้นร้อยละ 67.5 คิดเป็น 14.2 ล้านคน งดเหล้าครบพรรษาหรือตลอด 3 เดือน ร้อยละ 37.9 ผู้ที่งดหรือลดการดื่มลง ร้อยละ 29.6 ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 11,243 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสำรวจกลุ่มผู้งดเหล้าเข้าพรรษา ระบุว่า เมื่อเลิกหรือลดการดื่มแล้ว ทำให้สุขภาพดีขึ้น ร้อยละ 71 ประหยัดค่าใช้จ่าย ร้อยละ 54 สุขภาพจิตดีขึ้น ร้อยละ 42 ลดปัญหาในครอบครัว มีความสุขมากขึ้น ร้อยละ 26 ที่สำคัญกลุ่มผู้ดื่ม ร้อยละ 85.2 ยอมรับว่า เมื่อเห็นสื่อรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาของ สสส. ทำให้เกิดความตระหนักในพิษภัย และพยายามลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2561 จะเน้นในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ค้นหาผู้ติดสุรา ให้คำปรึกษาการเลิกดื่มที่ถูกต้อง การส่งต่อเพื่อบำบัดกรณีดื่มจนเสพติดเป็นผู้ป่วย ร่วมกับโครงการ 155 นายอำเภอ โดยรณรงค์ผ่านโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กว่า 30,000 แห่ง ให้ความรู้พิษภัยของสุราแก่เด็กนักเรียนนำไปเผยแพร่และชักชวนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ลด ละ เลิกดื่มสุรา
ด้าน นายพีรภัทร ศิริ อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตั้งใจใช้วันเข้าพรรษานี้เป็นจุดเริ่มต้นเลิกเหล้าตลอดชีวิต เพื่อลูกและภรรยา ตั้งใจเป็นคนใหม่ มีเวลาให้ครอบครัว ทำงานเก็บเงินเพื่ออนาคตลูกทั้ง 3 คน เนื่องจากทั้งชีวิต ไม่เคยทำให้ลูกภรรยามีความสุข ทะเลาะกันเป็นประจำ บ่อยครั้งใช้ความรุนแรง มีปัญหาหนี้สิน ไม่มีเงินเก็บ สุขภาพทรุดโทรม
“สิ่งที่ทำให้คิดและเปลี่ยนแปลงตัวเองได้คือลูกสาวคนโตเคยเขียนจดหมายลาพ่อ หากยังไม่เลิกเหล้า คงเป็นเพราะลูกเห็นจากสิ่งที่ทำทุกๆ วันว่ามันทำร้ายครอบครัว มันไม่มีความสุข จนถึงขั้นรับไม่ได้ จากวันนั้นรู้แล้วว่าครอบครัวสำคัญที่สุด ถือว่าโชคดีที่มีโอกาสเจอภาคีเครือข่ายงดเหล้า และ สสส.ได้คุยกับคนที่เลิกเหล้าสำเร็จ” นายพีรภัทร กล่าว
ขณะที่ เด็กชายวุฒิชัย ผาหลัก หรือ “น้องมิก” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนปทุมคงคา ผู้ที่แต่งเนื้อเพลงชวนงดเหล้าเข้าพรรษา และร้องแร๊พจนโด่งดังในโลกออนไลน์ กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบเห็นคนดื่มสุรา รู้สึกสะเทือนใจว่าการดื่มสุราก่อให้เกิดผลเสีย เสียเงิน เสียสุขภาพ เสียมิตรภาพ เด็กหลายคนมีปัญหาการเรียนเพราะพ่อแม่ติดเหล้า จึงเกิดแรงบัลดาลใจ แต่งเพลงแร๊พขึ้นมาเพื่อเชิญชวนให้ทุกคนใช้เทศกาลเข้าพรรษานี้งดเหล้า และเชื่อว่าหากตั้งใจพยายามจริง จะลดละเลิกเหล้าได้ในที่สุด
สำหรับเนื้อร้องเพลงแร๊พชวนงดเหล้าเข้าพรรษาของน้องมิก ดังนี้ “อยากให้เลิกเหล้าเพราะว่ามันไม่ค่อยดี พอคุณนะเริ่มเมาคุณธรรมก็ไม่มี จิตใจก็ลอยล่อง เหลือเอาไว้เพียงกายหยาบ มันไม่เหมือนนิทาน ที่มีเจ้าชายมากำรา เด็กๆ ก็สงสัย แต่กลับบอกว่าของผู้ใหญ่ ก็เลยสนใจแต่เหล้าสุรา แต่พอกับเด็กไม่เอาใจใส่ เด็กในสายตาก็คงไม่ต่างไปจากอะไหล่ ก็เพราะพ่อแม่ติดเหล้ายา เนื้อหาการเรียนเลยไม่อยากใฝ่
ถ้าอยากจะขอให้เลิก ก็ขอให้เลิกแบบลาขาด ไม่ใช่มาที่หน้างานศพแล้วเข้าฝันบอกลาจาก คำที่สัญญาอยากให้ทำไม่ใช่ลมปาก ผมจะยืนอยู่เคียงข้าง เพราะรู้ว่าเลิกมันคงลำบาก แต่ถ้าจะติดแบบงอมแงมจนกินทุกคนคงไม่ใช่ แต่ถ้าจะให้เลิกเร็วไวมันคงเป็นไปไม่ได้ จะให้พยายามเลิกถ้าไม่อยากให้คนรักต้องร้องให้ ถ้าหากว่าเราร่วมใจกัน เหล้ายาต้องแพ้พ่าย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี