ความคืบหน้ากรณีติดตามจระเข้ที่พบที่ชายหาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.วันนี้( 29 ก.ค.61)เจ้าหน้าที่ชุดติดตามจระเข้ฯ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปีจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย นาย นิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุด ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนำโดย นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงอำเภอถลาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลเชิงทะเล ฝ่ายปกครองอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดลายัน ร่วมเดินเท้าส่องไฟสำรวจตลอดแนวชายหาดลายัน – เลพัง
กระทั่งพบดวงตาจระเข้หลบอยู่หลังโขดหิน ที่บริเวณปากคลองลายัน ด้านหลังเกาะกระทะ ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จึงวางแผนนำอวนที่มีความยาวจำนวน 3 ชั้นเข้าล้อม ก่อนใช้เชือกคล้องปากของจระเข้ โดยใช้เวลาเข้าล้อมจับตัวประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถจับตัวได้ ก่อนนำส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง บ้านพารา ม.4 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง เดินทางไปตรวจสอบ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าจระเข้ตัวดังกล่าว เป็นจระเข้เพศเมีย มีความยาว 2.5 เมตร ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจะเข้น้ำเค็มหรือพันธุ์ผสม ต้องรอตรวจเลือดพิสูจน์อีกครั้ง
นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดเปิดเผยว่า การจับจระเข้ตัวดังกล่าวใช้เวลานานหลายวันเนื่องจากอุปสรรคเรื่องคลื่นลมแรงทำให้ต้องวางแผนอย่างรัดกุมทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติการ โดยการจับจระเข้จะต้องมั่นใจจริงในการจับเพื่อไม่ให้จระเข้เตลิด ต้องรอให้คลื่นลมสงบก่อนเข้าทำการประชิดตัว โดยวิธีการในวันนี้คือการเปิดตำแหน่งที่จะจับให้ว่าง แล้วไปกดดันอีกพื้นที่โดยการใช้ไฟส่อง ให้จระเข้เข้ามาหลบในจุดอับ จากนั้นเริ่มใช้ไฟส่องหาดวงตา ก่อนพบและใช้อวนล้อมไว้ 3 ชั้น ทั้งนี้อยากขอบคุณทีมงาน และหน่วยงานในพื้นที่ทุกพื้นที่ที่ให้ความสนับสนุนในขณะที่เข้าไปติดตามตัวจระเข้ จนสามารถจับตัวได้
ด้านนาย นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดเปิดเผยสั้นๆว่าจะต้องตรวจสอบว่าจระเข้ตัวดังกล่าวมีการฝังไมโครชิปไว้หรือไม่ ก่อนจะดำเนินการตามระเบียบของกรมประมงต่อไป
อย่างไรก็ตามภายหลังเจ้าหน้าที่ทำการสแกนไมโครชิพบนตัวจระเข้ปรากฏว่าไม่พบไมรโครชิพแต่อย่างใด จึงยืนยันได้ว่าไม่ใช้จระเข้เลี้ยง แต่จะมาจากที่ใดนั้นต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นจระเข้พันธุ์น้ำเค็ม หรือพันธุ์ผสมต้องรอตรวจพิสูจน์เลือดอีกครั้ง โดยจะนำจระเข้ที่จับได้ไปยังศูนย์วิจัยประมง จุดที่เคยนำจระเข้เลพังไปอาศัย สรุปปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 12 วัน ในการติดตามตัวจระเข้ตัวนี้ได้สำเร็จ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี