วันที่ 2 สิงหาคม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยที่ประชุมได้รับรายงานกรณี นางแคทเทอรีน เอเยอร์ส แมนนิกซ์ ชาวอเมริกัน ได้แจ้งความประสงค์ส่งมอบโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์คืนให้แก่ประเทศไทย 12 รายการ โดยเป็นโบราณวัตถุครอบครองส่วนตัวยุคก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียงของไทย ขณะนี้สถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ได้จัดส่งโบราณวัตถุทั้งหมดมายังกระทรวงการต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว และสัปดาห์หน้ากรมศิลปากรและกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมกันตรวจสอบโบราณวัตถุและส่งมอบให้แก่กรมศิลปากร เพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียงต่อไป โดยโบราณวัตถุทั้ง 12 รายการได้แก่
1.ภาชนะดินเผาสีดำ อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยต้น ราว 4,300-3,000 ปี
2.ภาชนะดินเผาลายขูดขีดผสมการระบายสีแดง อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยต้น ระยะปลาย ราว 3,000 ปี
3.ภาชนะดินเผาลายขูดขีดผสมการระบายสีแดง อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยต้น ระยะปลาย ราว 3,000 ปี
4.ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบประดับด้วยเส้นนูน อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยต้นราว 4,300-3,000 ปี
5.ภาชนะดินเผาลายเขียนสี อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยปลาย ราว 2,300-1,800 ปี
6.ภาชนะดินเผาลายเขียนสี อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยปลาย ราว 2,300-1,800 ปี
7.ภาชนะดินเผาลายเขียนสี อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยปลาย ราว 2,300-1,800 ปี
8.ภาชนะดินเผาลายเขียนสี อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยปลาย ราว 2,300-1,800 ปี
9.ภาชนะดินเผาสีดำ
10.ลูกกลิ้งดินเผา อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยปลายราว 2,300-1,800 ปี
11.หินดุดินเผา อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์
12.กำไลสำริด อายุสมัยก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง ราว 2,300-1,800 ปี
นายวีระ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย กรณีทับหลัง 2 ชิ้น คือ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แต่ขณะนี้โบราณวัตถุทั้ง2รายการได้ถูกอายัดและไม่ได้การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แล้ว ถือว่ามีแนวโน้มที่เป็นไปได้สูงในการได้คืน โดยที่ประชุมได้รับรายงานว่า สหรัฐอเมริกาได้ตั้งอัยการเพื่อรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวโดยตรง และมีการแจ้งขอหลักฐานของโบราณวัตถุทั้งสองรายการเพิ่มเติม ซึ่งกรมศิลปากรได้ทยอยส่งหลักฐานตามที่ขอไปแล้ว และพร้อมจะส่งหลักฐานเพิ่มเติมหากมีการร้องขอมาอีก
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ติดตามโบราณวัตถุกลับคืนประเทศไทย 9 รายการเพิ่มเติม ปัจจุบันจัดแสดง ที่ พิพิธภัณฑ์ Norton Simon มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย และถูกนำออกไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ประกอบด้วย
1.พระโพธิสัตว์ไมเตรยะ สำริด เป็นศิลปะลพบุรี (ศิลปะเขมรที่พบในประเทศไทย) ก่อนเมืองพระนคร อายุราว พ.ศ.1300-1350
2.พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม สำริด เป็นลักษณะเฉพาะศิลปะแบบทวารวดี ในบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 13-15
3.พระพุทธรูปประทับยืน หินทราย เป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะทวารวดี การทำอุณาโลมเป็นลักษณะใกล้เคียงกับศิลปะอินเดีย อาจสร้างขึ้นในระยะแรกราวพุทธศตวรรษที่ 13
4.พระพุทธรูปางสมาธิ สำริด เป็นศิลปะทวารวดีตอนกลาง ราวพุทธศตวรรษที่ 13-15
5.พระพุทธรูปลีลา สำริด เป็นลักษณะเฉพาะของพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย อายุราวพ.ศ.1800-2000
6.เศียรพระพุทธรูป หินทราย พระพุทธรูปแบบทวารวดีตอนกลาง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-15
7.พระสุริยะเทพ หินทราย เป็นประติมากรรมเทวรูปรุ่นเก่า สกุลช่างศรีเทพอายุราวพ.ศ.1100-1200
8.นาคปัก หินทราย เป็นรูปแบบศิลปะขอม สมัยเมืองบาปวน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16
9.แผ่นทองคำดุนลวดลาย 5 แผ่น
** อ่านรายละเอียดข่าวทวงคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์ ได้ที่ http://www.naewna.com/local/276113
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี