ความคืบหน้ากรณีพบศพ น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอรี่ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยสภาพศพนั่งฟุบหน้าเข้าขอบเตียง ซึ่งเกิดเหตุในพื้นที่สน.โชคชัย ภายหลังทราบตัวคนร้ายและได้ออกหมายจับนายอัศยา ชัยภา หรือ "โก้" อายุ 33 ปี คนสนิทผู้เสียชีวิต ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
เมื่อบ่ายวันนี้ (3 ส.ค.) นายดำรงค์ ประภาวัต อดีตพ่อตานายอัศยา พร้อมด้วย น.ส.รุจี ประภาสะวัต อายุ 31 ปี อดีตภรรยานายอัศยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย โดยนายดำรงค์ พูดสั้นๆว่า เป็นอดีตพ่อตาของคนร้าย และไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น หากคนร้ายดูข่าวนี้อยู่ ขอให้เข้ามาตัวโดยด่วน เพราะสงสารครอบครัวของผู้ตาย
น.ส.รุจี เปิดเผยว่า ตนเป็นอดีตภรรยาของคนร้ายจริง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเลิกรากันไปประมาณ 1 ปี เพราะคนร้ายมีคนอื่น หลังจากนั้นก็ติดต่อกันเรื่องลูกเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนขอไม่ตอบ เนื่องจากให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว และผู้ตายเองก็ทราบว่าตนเป็นภรรยาเก่าคนร้าย ที่เคยอยู่กินกันมา แต่ก็ยืนยันที่จะคบกัน ตนจึงถอยออกมา ส่วนเรื่องการพนันนั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคนร้ายไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนั้น หากคนร้ายยังติดตามข่าวนี่อยู่ ขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพราะตนยังอยากให้คนร้ายมีชีวิตอยู่ และยืนยันว่าจะพาลูกไปเยี่ยมแน่นอน
นายดำรงค์ กล่าวว่า ลูกสาวอยู่กินกับนายอัศยาประมาณ 8-9 ปี มีลูก 1 คน อายุ 4 ขวบ ซึ่งอาจจะมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายกัน ก่อนที่จะมีการเลิกรากันได้ประมาณ 1 ปี แต่ก็ยังติดต่อเรื่องลูกกันอยู่ ซึ่งนายอัศยา ก็จะโอนเงินค่าเลี้ยงดูลูกมาให้ทุกเดือน แต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่มีการโอนเงินมา และขาดการติดต่อตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎคม 61 ส่วนเรื่องเงินที่หายไปจำนวน 2.7 ล้านบาท ตนยืนยันว่าไม่มีเงินจำนวนนี่ในบัญชีลูกสาวอย่างแน่นอน
ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้ต้องหา ซึ่งไม่ยืนยันว่าล่าสุดผู้ต้องหา อยู่ในประเทศไทยหรือประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากพบข้อมูลว่ามีการใช้ช่องทางธรรมชาติในการเข้าออกประเทศ ส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุฆ่า น.ส.ธิติมาหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่ารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายเรียกให้น้องชายของผู้ต้องหาเข้าให้ปากคำแล้วโดยให้เข้าพบทันที ยืนยันว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ภายใน 7 วัน
"จากการสอบปากคำอดีตภรรยาให้การว่า นายโก้ติดต่อด้วย และพูดคุยเหมือนสั่งลา ซึ่งก็เกรงว่านายโก้ จะคิดสั้นทำร้ายตัวเอง ส่วนเงินที่นายโก้ โอนให้อดีตภรรยา หลังก่อเหตุ หากพบว่าอดีตภรรยากดออกไปใช้ ก็จะถือว่ามีความผิดด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกับอดีตพ่อตา นายโก้ ทราบว่า นายโก้คบหากับลูกสาวมา 7-8 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือถามรายละเอียดเรื่องครอบครัวกับลูกสาวแต่ขอให้ลูกสาวตัดสินใจเอง แต่ยอมรับว่ามีปากเสียงกันบ่อย อย่างไรก็ตาม หลังเลิกรากับนายโก้ได้ปีกว่า นายโก้ส่งเสียลูกตลอด จนเมื่อเดือน ก.ค.ไม่สามารถติดต่อได้ ยืนยันเงินที่เป็นข่าว 2 ล้านกว่าบาท นายโก้ไม่ได้นำมาให้เป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูลูกแน่นอน ซึ่งยังมีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้นายโก้นำรถฟอร์ดของ น.ส.ธิติมา ไปให้อดีตภรรยาใช้ ซึ่งทำให้นางสาวธิติมาไม่พอใจ" ผบก.น.4 กล่าว
ขณะเดียวกัน นายบัณฑิต ได้นำเอกสารมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักฐานที่เชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุเป็นขบวนการ หลังจากที่เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมาไปอายัดบัญชีธนาคารของผู้ตายแล้ว พร้อมให้ตรวจสอบว่ามีการเคลื่อนไหวทางบัญชีหรือไม่ หลังจากเสียชีวิต
เนื่องจากทราบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีบริษัท เข้าบัญชีนายโก้หลายครั้ง รวมหลายแสนบาท ทั้งนี้ในส่วนประเด็นอีกประเด็นที่ ทำให้ น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจ ถูกนายโก้ ฆ่าตาย คือวันนี้ 27 ก.ค.หลังคนตายเบิกเงินจากธนาคารกรุงไทยสาขาวังหิน 2 แสนกว่าบาท โดยนายโก้ ยืนอยู่ด้วย จากนั้น ผู้ตาย ทราบว่า นายโก้ ได้นำรถฟอร์ด ไปให้เมียเก่า นายโก้ใช้ทำให้ คนตายมีปากเสียงกับ นายโก้ก่อนจะมีปากเสียงกันรุนแรง จนทำให้นายโก้ฆ่า แล้วหลบหนี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี