วันที่ 4 สิงหาคม นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขึ้น ฮ. บินสำรวจสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรีเหนือเขื่อนแก่งกระจานว่า จากการติดตามคาดว่าน้ำจะเต็มเขื่อนแก่งกระจานในอีกประมาณ 10 ชั่วโมงข้างหน้า จากนั้นน้ำส่วนเกินที่ล้นสปิลเวย์ ประมาณ 300 ลูกบาศก์ (ลบ.ม.)ต่อวินาที จะลงมายังเขื่อนเพชรบุรีใน 10 ช.ม. ต่อมา และเข้าตัวเมืองเพชรบุรีประมาณเที่ยงวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม โดยคาดว่าระดับน้ำที่เข้าแม่น้ำเพชรในตัวเมืองสูงกว่าปี 2560 ประมาณ 50 ซ.ม. ซึ่งผู้ว่าฯเพชรบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและได้เตรียมแจ้งเตือนประชาชนแล้วและจะมีการแจ้งเตือนต่อเนื่อง
ทั้งนี้จ ากปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องและไหลลงอ่างมากกว่า 24 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ทำให้คาดว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อเมืองเพชรบุรีนานประมาณ 1-2 เดือน โดยกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ตลอดเส้นทางเพื่อเร่งให้น้ำออกทะเลเร็วที่สุด
สำหรับการประเมินแผนปฏิบัติการรับมือสภาพอากาศและสถานการณ์ฝนช่วงวันที่ 4 – 8 ส.ค.2561 ที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นบริเวณชายขอบประเทศภาคตะวันตก และ ภาคอีสาน เนื่องจากเป็นแนวปะทะของฝน โดยจะตกมากในภาคตะวันตก และมีน้ำไหลเข้าเขื่อน 4 เขื่อนมากขึ้น คือ ศรีนครินทร์ วชิราลงกรณ แก่งกระจาน และปราณบุรี
จากอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเขื่อนแก่งกระจานสูงขึ้น อย่างรวดเร็ว โดยพบว่า 1 วันปริมาณน้ำขึ้นมามากถึง 150 ล้านลบ.ม. โดยปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีปริมาณน้้ำประมาณ 690 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 97% ของความจุเขื่อน 710 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้า 24.8 ล้าน ลบ.ม./วัน ระบายออก 9.30 ล้าน ลบ.ม./วัน คงเหลือพื้นที่รับน้ำอีกประมาณ 40 เซนติเมตร คาดว่าภายในวันที่ 5 สิงหาคม น้ำจะไหลล้นระดับ spillway
นายสมเกียรติกล่าวว่า มาตรการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน คือ การระบายทางช่องทางระบายน้ำในลำน้ำเดิมวันละ 8.6 ล้านลูกบาศก์เมตร และติดตั้งกาลักน้ำ 12 แถวระบายได้ 0.5 ล้าน ลบ.ม./วัน และ เพิ่มเครื่องสูบน้ำ Hydro Flow อีก 20 เครื่อง ระบายน้ำได้ 2.6 ล้าน ลบ.ม./วัน รวม 2 ส่วนระบายน้ำได้ 3.1 ล้าน ลบ.ม./วัน นอกจากนี้ ยังมี Spillway เมื่อน้ำถึงระดับเก็บกักสูงสุด สามารถระบายได้อีก โดยไม่กระทบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อ
สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมจากเขื่อนแก่งกระจาน ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ทำหนังสือไปยังอำเภอ นายกเทศมนตรีเมือง และปภ.เพชรบุรี เพื่อแจ้งให้แจ้งเตือน และเตรียมช่วยเหลือชาวบ้าน จากการระบายนำออกจากเขื่อนแก่งกระจาน ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อน จนถึงปลายแม่น้ำเพชรบุรี หากมีการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ตั้งแต่บริเวณด้านท้ายอาคารระบายน้ำล้นเขื่อนแก่งกระจานจนถึงเขื่อนเพชร พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบอาจจะทำให้มีระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2.87-4.51 เมตร ขณะที่พื้นที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนเพชร ตั้งแต่บริเวณเขื่อนเพชร จนถึงปลายแม่น้ำเพชรบุรีจากตั้งแต่ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีลงมา โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ คือ พื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองท่าแร้ง ต.ท่าแร้ง ต.ท่าแร้งออก ต.บ้านแหลม ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
“รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) มีข้อห่วงใยและข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมากเกินกว่า 80% ของความจุ ให้เข้าสู่เกณฑ์ปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการคาดการณ์ปริมาณฝนที่จะตกมาเพิ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยต้องเตรียมแผนรองรับให้พื้นที่ท้ายน้ำ โดยมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นให้ชัดเจนเพื่อประชาชนได้เตรียมการป้องกันหรืออพยพล่วงหน้า” นายสมเกียรติ กล่าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าว ไม่ใช่ภาพจากเหตุการณ์ปัจจบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี