วันที่ 4 สิงหาคม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีเกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักทั่ว กทม. เมื่อช่วงเย็นต่อเนื่องถึงกลางดึกวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า เหตุดังกล่าวเป็นผลจากการปิดการจราจรบนถนนลาดพร้าวทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก 1 ช่องทางชิดเกาะกลางในหลายจุด เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง
โดยตั้งแต่เวลา 14.00 น. เริ่มเกิดปัญหาการจราจรบนถนนลาดพร้าวฝั่งขาออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพยายามเร่งระบายให้รถเคลื่อนตัวได้ จนกระทั่งถึงช่วงเวลา 17.00 น. ถนนลาดพร้าวก็เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติ รถติดขัดจนหยุดนิ่ง ท้ายแถวสะสมมาถึงแยกรัชดาลาดพร้าวและห้าแยกลาดพร้าว ทำให้รถติดขัดไปถึงถนนรัชดาภิเษกทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ท้ายแถวสะสมของแต่ละด้านพันต่อเนื่องไปถึงถนนพระราม 9 เข้าถนนดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และพันต่อถึงกรุงเทพชั้นใน ส่วนอีกจุดคือถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากรถไม่สามารถเข้ารัชวิภาได้ ทำให้ท้ายแถวสะสม ขณะที่ถนนพหลโยธิน ท้ายแถวสะสมมาจาก ห้าแยกลาดพร้าว โดยสรุปคือ รถติดขัดพันกันต่อเนื่องครึ่งกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเร่งระบายรถจนคลี่คลายและเส้นอื่นๆก็คลี่คลายตามไปด้วย
ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ตั้งแต่คืนวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังเริ่มปิดการจราจร แต่ปัญหายังไม่เข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากรถทยอยเดินทางกลับบ้านในเวลาเหลื่อมกัน แต่พอถึงวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่เดินทางกลับพร้อมกัน ทำให้รถสะสมบนถนนลาดพร้าวจำนวนมาก อีกทั้งจุดกลับรถและจุดเข้าซอยสำคัญต่างๆ ถูกปิดจากแนวก่อสร้างทำให้ไม่สามารถระบายรถออกจากพื้นที่ได้
สำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าว ในเบื้องต้นจะเรียกตัวแทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมถึงผู้รับเหมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือแนวทางการแก้ไขอีกครั้ง เพราะหากปล่อยไว้ในลักษณะนี้ทุกช่วงวันศุกร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเกิดวิกฤตเช่นนี้อีก
หมายเหตุ : ภาพจากเฟซบุ๊ก จส.100
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี