สามเณรหมูป่าลาสิกขา
‘พระเอกพล’ยังไม่สึก
อาจบวชยาว1พรรษา
เปิด‘ขุนน้ำนางนอน’
ให้เข้าชมได้ชั่วคราว
สามเณรทีมหมูป่าบิณฑบาตครั้งสุดท้ายก่อนลาสิกขาประชาชนเข้าร่วมทำบุญคับคั่ง ส่วน “พระเอกพล” อาจบวชยาว 1 พรรษา อุทยานฯ เดินหน้าฟื้นฟู “ขุนน้ำนางนอน” เปิดชมธารน้ำสีเขียวชั่วคราว
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม ที่วิหารพระอินทร์สาน วัดพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พระครูประยุตเจติยานุการ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา ได้ให้ทางพระและสามเณรทีมหมูป่า ทีนทอล์ค อะคาเดมี แม่สาย 12 รูป ทำการบิณฑบาตเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการลาสิกขาในช่วงบ่าย โดยให้ พระเอกพล วิสารโท เป็นผู้นำบิณฑบาตร โดยได้รับความสนใจจากบรรดาญาติและประชาชนทั้งในพื้นที่ อ.แม่สาย และต่างจังหวัด ที่ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้งมาทำบุญใส่บาตรเป็นจำนวนมากกว่าทุกวัน พร้อมทั้งมีการขอร่วมถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นระลึกด้วย
โดยฝ่ายสงฆ์มีพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอแม่สายเป็นประธาน และฝ่ายฆราวาสมีนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สายเป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นมีการไหว้พระ อาราธณาศีล พระสงฆ์ให้ศีล ก่อนที่พระสงฆ์จำนวน 12 รูป ร่วมกันสวดมาติกา เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง โดยประธานในพิธีและผู้มีเกียรติร่วมวางผ้าบังสุกุลและพระสงฆ์สวดบังสุกุล
ต่อมาตัวแทนสามเณร 11 รูป ได้ถวายเครื่องสักการะประธานสงฆ์และกล่าวคำขอลาสิกขา ส่วนพระเอกพล วิสารโท ไม่ได้ลาสิกขาในครั้งนี้ด้วย โดยยังไม่มีกำหนดลาสิกขา ซึ่งอาจจะบวชนาน 3 เดือนหลังออกพรรษาแล้วตามธรรมเนียมปฎิบัติของพระสงฆ์ที่ไม่ให้มีการลาสิกขาในช่วงเข้าพรรษา หรืออาจจะบวชนานไป 1 พรรษา ก่อนประธานพระสงฆ์โดยพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ จะประกอบพิธีลาสิกขาให้สามเณรและให้ศีล 5 ตามด้วยการอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์จำนวน13 รูป ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมธนาบุญเป็นอันเสร็จพิธี
ส่วนในเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ได้มีการจัดงานนิทรรศการขอบคุณคนทั้งโลก โดยมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย เป็นประธาน มีการร่วมรับประทานอาหารกาดหมั้วครัวแลง การแสดงชุดต่างๆ บริเวณลานพระธาตุดอยเวา และจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายจำนวน 4,000 ภาพ โดยรอบองค์พระธาตุดอยเวา ให้ประชาชนและผู้ร่วมงานได้ชมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การติดถ้ำหลวงของทีมหมูป่าอะคาเดมี
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในขุนน้ำนางนอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากขุนน้ำนางนอน ใช้เป็นจุดระบายน้ำโดยมีการขุดเจาะและผันทางน้ำออกมาจากถ้ำหลวง โดยพบว่าน้ำทั่วไปที่เป็นลำธารไหลออกมากลับคงความงดงามอย่างมาก โดยน้ำเป็นสีเขียวมรกต
นายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) กล่าวว่า ในช่วงที่มีการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาดามี เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการภายในขุนน้ำนางนอนด้วย ทำให้ในปัจจุบันต้องมีการฟื้นฟูเพื่อให้กลับสู่สภาพธรรมชาติ แต่เนื่องจากในปัจจุบันเป็นฤดูฝนทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ต้องปิดชั่วคราวก่อนและจะอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูสภาพเพื่อเตรียมการฟื้นฟูและวางผังเท่านั้น จากนั้นจึงค่อยทำการฟื้นฟูโดยเริ่มต้นด้วยการปูผืนหญ้าใหม่ก่อนเพราะเดิมบริเวณพื้นดินที่พบเห็นทั่วไปดังกล่าวนั้นเคยเป็นสนามหญ้าที่มีอาคารของเจ้าหน้าที่อยู่รายรอบ 3 หลัง
“สาเหตุสำคัญที่ยังไม่อนุญาตให้เข้าชมอีกประการหนึ่งคือระดับน้ำภายในขุนน้ำที่ลึกมาก โดยเดิมน้ำที่ไหลออกมาสู่ลำธารจะลึกประมาณ 50-70 ซม. แต่หลังจากมีการขุดเจาะเพื่อผันน้ำออกไปและรองรับน้ำจากถ้ำหลวงได้ทำให้บางจุดลึกกว่า 3-4 เมตร ทำให้อาจเป็นอันตราย จึงต้องมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ให้มีความปลอดภัยก่อนซึ่งจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้”นายกมลไชย กล่าว
ขณะที่ ครูบาอริยชาติ เกจิอาจารย์ดังเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พร้อมด้วยพระลูกศิษย์และญาติของเยาวชนทีมหมูป่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เดินทางไปยังถ้ำหลวง โดยได้ทำพิธีถวายเครื่องสักการะ บริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวงเพื่อบวงสรวงสิ่งศักดิ์และเจ้าหน้าแม่นางนอน ที่ปกปักษ์รักษาถ้ำหลวงและเทือกเขาดอยนางนอน ซึ่งครูบาอริยชาติ นำสวดมนต์เพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศิริมงคลให้เจ้าหน้าที่ และทีมอาสาสมัครที่เข้าไปช่วยเหลือ เยาวชน 13 ชีวิต ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง รวมไปถึงการสะเดาะเคราะห์หลังสามารถช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งได้มีการสวดแผ่เมตตาและกวาดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับ น.ต.สมาน ที่เสียสละชีวิตขณะเข้าช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 คนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี