7 ส.ค.61 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุ ทุบตู้เติมเงินโทรศัพท์ ลักทรัพย์เกือบ 300 คดี ว่า พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลแล้ว 1 ราย ตามภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้ ส่วนมาตรการป้องกัน บช.น.ได้ทำอย่างเร่งด่วน โดยมีการทำหนังสือเชิญผู้ประกอบการตู้เติมเงินโทรศัพท์ บริษัทเอเจฯ และบริษัทอื่นๆ รวม 26 บริษัท เข้าร่วมประชุมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามที่ บช.น.ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น.เพื่อร่วมกันทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ตำรวจต้องทราบว่าตู้ตั้งอยู่ที่ใดบ้าง และต้องไม่อยู่ในจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ใน กทม.มีการตั้งตู้ทั้งหมด 3,400 กว่าจุด บริษัทก็ทำประกันภัยไว้หากเกิดเหตุ ก็ได้ค่าเสียหายจากบริษัทประกัน แต่ภาระคดีต้องตกอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงต้องประชุมหามาตรการป้องกันร่วมกัน โดยอาจจะให้พนักงานของบริษัทจัดคนร่วมตรวจตรากับตำรวจ หรือวางจุดที่ตั้งตู้จะต้องปลอดภัยไม่อยู่ในที่ปลอดคน และมีหรือใกล้กับกล้องวงจรปิดเป็นต้น เนื่องจากจุดเกิดเหตุที่คนร้ายก่อเหตุงัดตู้ แทบไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่เลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี