■■ รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยของคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...■■ วิกฤติการเมือง การเลือกตั้ง ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แม้ว่า “สามเกลอ” พยายาม ขยาย “หัวดูด” ไปยังทุกพรรคการเมือง เพื่อ “ดูด” เอาอดีต สส. ที่เชื่อมั่นว่า ลงเลือกตั้งเมื่อไหร่ ก็ได้เป็น สส. เมื่อนั้น โดยหลักคิดว่า “เงิน บวก คน” ที่เคยเป็น อดีต สส. จะทำให้ชนะการเลือกตั้ง...■■ แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้ คสช.เอง ก็ยังไม่มั่นใจว่า หลักคิด ดังกล่าว จะถูกต้อง และต้องชนะ เพราะสุดท้ายแล้ว คสช. และ “กองหนุน” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เอง ก็ยังไม่มั่นใจว่า ถ้าเลือกตั้งเร็ว กับ เลือกตั้งช้าออกไป อย่างไหนจะได้รับชัยชนะ....■■ กระทรวงที่น่าเห็นใจที่สุดใน ขณะนี้ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะนอกจากต้อง “แบกรับ” ราคาพืชผล ทางการเกษตร ทั้งยางพารา ทั้งปาล์มน้ำมัน และวิกฤติประมง ที่มองไปทางไหนเห็นแต่ความ “มืดมน” แล้ว ยังต้อง “แบกรับ” เรื่องของ “ภัยธรรมชาติ” น้ำท่วม เพราะฝนที่ตกลงมาตลอดปี จนทำให้น้ำในเขื่อน น้อยใหญ่ ในทุกภาค ต้องมีการระบายออก หรือที่เรียกว่า “พร่องน้ำ” ให้เกิดความ “สมดุล” กับความต้องการใช้น้ำ และการรักษาเขื่อน อย่าให้เป็นเหมือนในประเทศลาว วันนี้งานหนัก ไม่ใช่งานการ “พร่องน้ำ” แต่เป็นเรื่องการ “สื่อสาร” กับประชาชน ให้เข้าใจกับสภาพของความเป็นจริง และต้อง “หยุดข่าวลือ” ในเรื่อง อันตรายของเขื่อน กฤษฎา บุญราช รัฐมนตรี กระทรวงนี้ จึงเป็นบุคคลที่ต้องทำงานหนักที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้ว สังคมจะได้เห็นว่า การเป็น “คนดี” อย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอในการ เข้ามากำกับดูแล แก้ปัญหาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์.... ■■ ไม้สุดท้าย เพื่อหาคะแนนเสียง จากเกษตรกร ก่อนการเลือกตั้ง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ก่อนการเลือกตั้งคือการสั่งให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ “พักหนี้” โดยหวังว่า จะเป็นการได้คะแนนเสียงจากภาคเกษตร หรือ “คนจน” อย่างเป็นกองเป็นกำ และจะทำให้กำลังซื้อของประเทศ “กระเตื้อง” ขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม แต่...เชื่อเถอะ สุดท้าย ล้มเหลวทั้งสองเรื่อง....■■ เรื่องความขัดแย้ง การคลุม “ฮีญาบ” ที่โรงเรียนอนุบาลปัตตานี 2 เดือนผ่านไป ยังหาทางในการ “คลี่คลาย” ไม่ได้ ล่าสุด ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่เป็น “มุสลิม” ยืนกราน ไม่เลิกการให้เด็กคลุม “ฮีญาบ” หากโรงเรียนใช้กฎเหล็กคือ กฎข้อบังคับของโรงเรียน ก็พร้อมที่จะลาออก และพร้อมที่จะ “ฟ้องร้อง” ผู้บริหารโรงเรียน เป็นการทิ้ง “ไพ่ตาย” เพื่อบีบให้โรงเรียนไม่มีทางถอย และสุดท้าย ต้องมีการ “ฟ้องร้อง” ซึ่งเป็นการ ขยายความขัดแย้ง ของสังคมให้เพิ่มมากขึ้น....■■ เสียดายในยุคที่ศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) ที่มีเลขาธิการ ชื่อ ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ ไม่มีบทบาทในการ “คลี่คลาย” ปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด นี่คือความ “ด้อยค่า” ของหน่วยงาน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความหวังของผู้คนใน จังหวัดชายแดนภาคใต้.... ■■
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี