ทางตันหรือ‘ตาย’
บิ๊กแป๊ะขู่เสี่ยอ้วนเลือกเอา
กร้าวส่งมือพระกาฬล่า
หิ้วสมุนจำลองนาทียิง
ปิดแฟ้มฆ่าสปาย-ฟอส
อาน้องหญิงบี้ดูวงจรปิด
ผบ.ตร.ลั่น “เสี่ยอ้วน” มีแค่ 2 ทางเลือก “ทางตัน-ทางตาย” เผยส่งดรีมทีมออกไล่ล่าแล้ว แนะมอบตัวดีที่สุด ขณะที่“เฉลิมเกียรติ”สั่งปิดแฟ้มคดีสมุนเสี่ยโหดฆ่า “น้องสปาย-น้องฟอส”หลังทำแผนจำลองเหตุการณ์บุกยิงดับ ย้ำสำนวนครบแล้วด้าน อา“น้องหญิง”ข้องใจ ผอ.รพ.การุญเวช อ้างกล้องวงจรปิดเสีย จ่อร้อง สธ.
จากกรณี นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน พร้อมลูกน้องรวม 6 ราย บุกยิงปลิดชีพ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี ที่เขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งในขณะนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 ราย คือ นายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี, นายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือบอล อายุ 35 ปี, นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือป๊อปปี้ อายุ 34 ปี นายกฤษณะ หรือมด ศรีสุข อายุ 22 ปี และ นายณรงค์ วรินทรเวช หรือบ่าว อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 สิงหาคม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 นำกำลังตำรวจควบคุมตัว นายบ่าว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รวมทั้งการจำลองเหตุการณ์ โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ได้อิงตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ มีเพียง นายสายันต์ ซึ่งยังอยู่กับกลุ่มผู้ตาย เมื่อสอบสวนจึงทราบว่า เป็นหนึ่งในทีมฆ่า ที่เข้ามาแฝงตัวสีตีสนิทเป็นแฟนกับเพื่อนผู้ตาย ในการส่งข่าวความเคลื่อนไหว และชี้พิกัดให้เสี่ยอ้วนรู้ ตั้งแต่เริ่มออกจากที่พักในเมืองพัทยา ไปเที่ยวที่ตลาดน้ำสี่ภาค ต่อด้วยสวนนงนุชพัทยา ก่อนจะมาสิ้นสุดที่พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ซึ่งเป็นจุดที่ทีมฆ่าลงมือสังหาร
โดยระหว่างที่ผู้ตายทั้งสองกำลังกลับมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ กลุ่มคนร้ายได้ใช้รถโตโยต้า ยาริส และรถยนต์ซีอาร์วี เข้าปิดท้าย ก่อนเสี่ยอ้วน จะลงมาจากรถและใช้ปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 2 กระบอก จ่อหัวขู่น้องสปายและน้องฟอส กระทั่ง นายบ่าว ที่ตามลงมาด้วยกัน เปิดฉากยิงปืนขนาด 9 มม. ใส่น้องสปาย 2 นัด เมื่อน้องฟอสจะก้าวขึ้นรถเพื่อหลบหนี แต่ถูกเสี่ยอ้วน ยิงใส่ 2 นัด แต่นัดแรกด้าน เข้าเพียงนัดเดียว นายบ่าว ได้ยิงซ้ำเข้าใส่ทั้งคู่อีกคนละ 2 นัด จนเสียชีวิต ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะพากันหลบหนี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจำลองทำแผนฆ่าในครั้งนี้ ถือเป็นการปิดแฟ้มคดี จากนี้ไม่ต้องจำลองทำแผนอีกแล้วเพราะสำนวนคดีครบถ้วน ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐานมัดตัวเสี่ยอ้วนได้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวลือออกมาจากตำรวจชุดคลี่คลายคดีว่าสามารถจับกุมเสี่ยอ้วนได้แล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางการกัมพูชา เพื่อขอรับตัวกลับมาดำเนินคดี แต่ปรากฏว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งจากการสอบถาม ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าว เพื่อต้องการให้ลดกระแสความกดดันลง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายบ่าว ได้ให้การซัดทอดว่า เสี่ยอ้วนเป็นผู้เปิดฉากยิงใส่ น้องสปายก่อน จากนั้นตน จึงยิงน้องสปายซ้ำ และหันไปยิงใส่น้องฟอส รวมกันทั้งหมด 7 นัด
ทางด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามตัว เสี่ยอ้วน อย่างต่อเนื่อง เมื่อถามว่าเสี่ยอ้วนอยู่ไหน ผบ.ตร.กล่าวว่า “อยู่ในใจผม”
“ผู้ต้องหาที่หนีหมายจับ มีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือทางตัน ทางตาย แค่นั้นเอง ยิ่งมีปืนด้วย มอบตัวดีที่สุด นี่ไม่ใช่การส่งสัญญาณอะไร แต่ผมปากกับใจตรงกันอยู่แล้ว เขามีปืน เขาทำขนาดนี้ฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิง จะให้ทำยังไง ผมต้องบอกลูกน้องหากเจอให้ป้องกันตัวไว้ก่อน” ผบ.ตร.กล่าว และว่า ได้ส่งทีมงานสืบสวนชุดดรีมทีมของตนลงไปทำแล้ว ไม่ต้องห่วง ตนรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกว่าเขาจะหนีทางไหน
ส่วนการติดตามตัว นายอัศยา ชัยภา หรือโก้ ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่ง ที่มีข่าวว่าหลบหนีไปฝั่งกัมพูชา ผบ.ตร.กล่าวว่า อยู่ระหว่างการประสานงานแต่บอกไม่ได้ว่าทำอะไร ขั้นไหน กลัวคนร้ายจะรู้ตัวก่อน
สำหรับกรณี น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา จากการตกรถเทรลเลอร์ ที่ นายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ อายุ 23 ปี เป็นคนขับ ต่อมา พบว่าพยาบาลสั่งให้มีการนำกางเกงชั้นในของน้องหญิงไปเผาทิ้งตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
น.ส.ภานิษา ยาวิราช อาของน้องหญิง เปิดเผยว่า ทางครอบครัวจะเก็บศพน้องหญิงไว้จนกว่าผลชันสูตรจะออกมา ส่วนกางเกงชั้นในก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับทางพยาบาลที่สั่งไปทำลาย ซึ่งก่อนหน้านั้นทางเราจะไปเคลียร์กับทาง รพ.การุญเวช แต่ ผอ.โรงพยาบาลโทรศัพท์มาบอกว่ากล้องวงจรปิดเสีย ดูภาพไม่ได้ ทั้งๆ ที่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เรายังไปดูภาพได้ตามปกติ ยังเห็นภาพน้องหญิง และกางเกงชั้นในที่น้องใส่อยู่เลย ซึ่งถ้าหากโรงพยาบาลไม่ให้ดูกล้องวงจรปิดเราก็จะร้องเรียนไปยังกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี