14 ส.ค.61 นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.) อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำว่า เขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)
โดยข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2561 เวลา 7.00 น. มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,633 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 86% ของความจุ ซึ่งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีมติให้เร่งพร่องน้ำออกไป เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน ในช่วงเดือน สิงหาคม และกันยายนนี้ จึงมีมติปรับแผนการระบายน้ำ วันที่ 14 สิงหาคม-30 กันยายน 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,227 ล้านลูกบาศก์เมตรและได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ หากสถานการณ์น้ำมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการปรับแผนระบายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้งหนึ่ง โดย กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ มีการรายงานแผนการระบายน้ำ ให้หน่วยงานราชการในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ทราบเป็นประจำทุกวันจันทร์ของสัปดาห์
ด้านความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน เขื่อนวชิราลงกรณมีการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากลโดยมีหน่วยงานด้านบำรุงรักษาเขื่อนฯ ทำการตรวจสอบเขื่อน เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี และโดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยเขื่อนฯ ทุกๆ 2 ปี หรือ เมื่อมีเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบกับตัวเขื่อน เช่น ฝนตกหนัก ระดับน้ำในเขื่อนมากกว่า 80% หรือ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขื่อนด้วยเครื่องมือวัดที่ติดตั้งไว้ภายในตัวเขื่อนและบริเวณใกล้เคียงทันทีเพื่อรายงานและวิเคราะห์ผลทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน
หากมีข้อสงสัย หรือได้รับข่าวต่างๆที่ผิดปกติ สามารถสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรงที่ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ หมายเลข 02-4368739 หรือ 034-599077 ต่อ 3110 , 3111 และติดตามเหตุการณ์ทางกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงที่ http://www.vrk.egat.com หรือ Application EGAT Water
ด้านนายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.) อ.ศรีสวัสดิ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน (วันที่ 14 สิงหาคม 2561 เวลา 08.00 น.) อยู่ที่ระดับ 174.52 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 15,538.38 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 87.56%ของความจุ โดยวันนี้ (14 ส.ค.)มีแผนการระบายน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร
และในด้านสถานการณ์น้ำในปัจจุบันที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของดีเปรสชั่นและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเมื่อวาน (วันที่ 13 สิงหาคม 2561) มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 33.50 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 24.85 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 2,210.48 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน รวมไปถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชนด้านท้ายน้ำ
เขื่อนศรีนครินทร์ ได้มีการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามและตรวจสอบเขื่อนเป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุก 3 เดือน ด้วยเครื่องมือตรวจวัดที่ทันสมัย และทุก ๆ 2 ปี จะมีการตรวจสอบประเมินความปลอดภัยเขื่อน ตามมาตรฐานเขื่อนใหญ่โลก (ICOLD) โดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยของเขื่อน
สืบเนื่องจากสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงได้เพิ่มการตรวจสอบเขื่อนให้มีความถี่มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การตรวจอัตราการซึมของน้ำผ่านตัวเขื่อน การตรวจวัดระดับน้ำในหลุมวัดน้ำ เดิมตรวจสอบสัปดาห์ละครั้ง เป็นตรวจสอบทุกวัน ส่วนการตรวจสอบ การทรุดตัวและเคลื่อนตัวของเขื่อน จากเดิมไตรมาสละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนศรีนครินทร์
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย หรือได้รับข่าวต่าง ๆ ที่ผิดปกติ สามารถสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรง ที่ กฟผ.เขื่อนศรีนครินทร์ โทรศัพท์ 034-574001 ต่อ 2110 , 2010 และติดตามเหตุการณ์ทางกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงที่ http://www.snr.egat.com หรือ Application EGAT Water
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน กลุ่มไลน์เขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ มีสมาชิก 204 คน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ที่คอยติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำภายในแม่น้ำแควน้อย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคตะวันตก (กาญจนบุรี) คอยรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในไลน์กลุ่มดังกล่าว ยังมีสมาชิกเป็นผู้ประการการโรงแรม รีสอร์ท แพพัก แพล่อง ที่อยู่ตามลำน้ำแควน้อย อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางผู้ประกอบการเองก็ได้รายงานสถานการณ์น้ำที่อยู่ในพื้นที่ของตนเอง ส่งเข้ามาในไลน์กลุ่มอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จึงทำให้ทุกฝ่ายทราบถึงสถานการณ์น้ำในแต่ละจุด ได้เป็นอย่างดี ว่าพื้นที่ไหนน้ำขึ้น นำลด น้ำทรงตัว รวมทั้งสีของน้ำด้วย
ส่วนที่แม่น้ำสองสี คือจุดที่แม่น้ำแควน้อยและแควใหญ่ไหลมาบรรจบกันเป็นต้นน้ำแม่น้ำแม่กลอง ที่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขณะนี้ปริมาณน้ำยังทรงตัว แต่ยังคงไหลเชี่ยวอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการชาวเรือชาวแพ ยังให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี