บิ๊กตู่ให้โอกาสคนไทยทำหนัง‘หมูป่า’ก่อน เงียบฉี่ถามเด็กใครอยากเป็นนายกฯ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนการประชุม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นำคณะเข้าพบ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานนิทรรศการ “ปฏิบัติการถ้ำหลวง: วาระแห่งโลก” ซึ่งจัดแสดงข้อมูลและภาพเหตุการณ์การช่วยชีวิตเด็กและผู้ช่วยโค้ช ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ ณ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมนำอุปกรณ์การช่วยชีวิตมาจัดแสดง อาทิ พาวเวอร์เจล หน้ากากอ๊อกซิเจน เปลสนาม และได้อธิบายถึงวิธีการใช้ รวมถึงนำอนุสาวรีย์จำลองจ่าแซมมาจัดแสดง และนำหนังสือประมวลภาพเหตุการณ์ ปฏิบัติการถ้ำหลวง : บันทึกวาระแห่งโลก ซึ่งจัดพิมพ์ทั้งหมด 10,000 เล่ม มาแจกจ่ายด้วย
นายกฯ ยังได้พูดถึงการทำหนังหมูป่า ว่าใครจะสมัครเข้ามาก็ยื่นมา ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างประเทศ แต่ต้องให้เขาเขียนพล็อตเรื่องมาให้ดู เพราะในพล็อตเรื่องจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจทำทีโออาร์ สำหรับตนมีอยู่ในความคิดแล้วว่าจะทำหนังอย่างไร อยากให้โอกาสกับผู้สร้างในประเทศไทยก่อน โดยเนื้อหาต้องสอดแทรกสาระความรู้เข้าไปด้วย และต้องมีรูปแบบ ทั้งทำเป็นหนังและสารคดี พร้อมย้ำกับนายวีระ ให้เน้นความสวยงามและธรรมชาติของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทย และต้องคำนึงถึงเรื่องเวลาที่เหมาะสม
จากนั้น ที่ห้องรับรองรอง 1 คณะอาจารย์ และผู้ฝึกสอนนำทีมฟุตบอลโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯเนื่องในโอกาสสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลกรายการ Norway Cup 2018 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชื่นชมทีมฟุตบอลเยาวชน พร้อมคณะฝึกสอน โดยระบุว่า กรุงเทพคริสเตียน นอกจากวิชาการดีแล้วกีฬายังเด่นด้วย ขอให้คงความสามารถตรงนี้ไว้ที่สำคัญขอให้ช่วยสอนในเรื่องทักษะในการใช้ชีวิตจริง ขอให้สอนมากกว่าเรื่องของวิชาการ และขอให้เยาวชนทุกคนอย่าเกเร อย่าได้เที่ยวไปพ่นข้อความหรือคำพูดต่างๆบริเวณสะพาน
นอกจากนี้ ขอร้องว่าอย่าไปตีกับคนอื่น ศักดิ์ศรีของโรงเรียนก็ขอให้อยู่ที่โรงเรียนและให้เก็บความภาคภูมิใจไว้ และอย่าคิดว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่น ทะเลาะกับเขาแล้วจะชนะเลิศมันไม่ใช่ ขอให้คงสโลแกนของโรงเรียนที่ว่า ฝีเท้าต้องดี จิตใจต้องงดงาม และต้องเรียนได้ เพราะในอนาคตทุกคนต้องประกอบอาชีพ เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศ และการเรียนไม่ใช่เน้นวิชาการเพียงอย่างเดียว สามารถที่จะแยกไปเรียนวิชาชีพได้ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการตกงาน อย่ามัวแต่ไปบ่นกันว่าไม่มีงานทำ รายได้น้อย เราต้องสอนให้ทุกคนเรียนรู้และเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าจะเรียนอะไรและจะประกอบอาชีพอะไร ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาทั้งหมดก็ได้ คนที่จะมีอาชีพได้แน่ๆก็คือพวกที่เรียนสายอาชีวะ
“การเป็นนักกีฬาของโรงเรียนควรจะต้องยึดหลัก เรียนเด่น เล่นดี มีคุณธรรม ขอให้เป็นคนดีเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง อย่าเป็นคนเด่นเพียงหน่วยงานเดียวก็จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งและขัดแย้งกันไปหมด ใครพูดอะไรก็เชื่อ แต่พอนายกฯพูดกลับไม่เชื่อ ยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯพูด ไม่ได้พูดเพื่อตนเอง แต่พูดเพื่ออนาคตวันข้างหน้า ทั้งครู นักเรียน การศึกษา จะต้องมีการปฏิรูป และขอให้ทุกคนเก็บความดีงามและชัยชนะครั้งนี้ไว้ อย่าลืมว่าการเป็นแชมป์นั้นยาก แต่การรักษาแชมป์และการรักษาความดีนั้นยากกว่า จึงขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนหนังสือ เชื่อมั่นในตัวครู และตั้งใจฝึกซ้อม และอย่าลืมว่าคนที่จะดีใจและเสียใจที่สุดคือ พ่อแม่และครอบครัว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายกฯได้สอบถามทีมนักฟุตบอล ว่า โตขึ้นมีใครอยากเป็นนายกฯบ้าง แต่ไม่มีเยาวชนคนไหนยกมือเลย พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวต่อว่า ถ้าอยากเป็นนายกฯต้องเรียนหนังสือให้เก่งและทำให้ดีกว่านายกฯประยุทธ์ วันข้างหน้าจะได้แก้ปัญหาในทุกเรื่อง และหากใครอยากติดทีมชาติก็ต้องมีความพยายาม เพื่อที่จะไปทดแทนทีมชาติชุดปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี