จากการที่หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องกรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวสวนยางโดยเฉพาะสวนยางพาราในแถบภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ระวังปัญหาการระบาดของโรครากขาวยางพารา ซึ่งการระบาดของโรคสามารถแพร่กระจายได้โดยการสัมผัสกันระหว่างรากของต้นที่เป็นโรคกับรากของต้นปกติ หรือสปอร์ของเชื้อราปลิวไปตามลมโดยการระบาดสามารถเกิดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต มักเกิดกับต้นยางพาราอายุ 1 ปี ขึ้นไปและด้วยสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูงปริมาณฝนค่อนข้างมากซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การระบาดของโรครากขาวยางพาราเพิ่มขึ้น ดังนั้น ขอให้เกษตรกรสำรวจสวนยางพาราอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการของโรคให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดเพื่อกำหนดแนวทางการควบคุม และดำเนินการป้องกันกำจัดก่อนที่การระบาดจะแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
เชื้อราสาเหตุสำคัญของโรครากขาวยางพาราคือเชื้อรา Rigidoporusmicroporus (Fr.) Overeemเมื่อระบบรากถูกทำลายจะแสดงอาการให้เห็นทางทรงพุ่มใบจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง โดยจะสังเกตเห็นเฉพาะบางกิ่งหรือเหลืองทั้งทรงพุ่มและหลุดร่วงในที่สุดรวมถึงลักษณะอื่นๆ ที่สามารถสังเกตได้ คือ
ลักษณะโคนต้นและรากที่เป็นโรค จะเห็นเส้นใยของเชื้อรามีสีขาวลักษณะค่อนข้างหยาบ ปลายแบนเมื่อเส้นใยอายุมากขึ้นจะกลายเป็นเส้นกลมนูนสีส้ม เรียกว่า ไรโซมอร์ฟ (rhizomorph) เชื้อราเจริญปกคลุมเกาะติดแน่นกับผิวราก
ลักษณะเนื้อไม้ของผิวราก ในระยะแรกเนื้อไม้จะแข็งและมีสีขาว หากเป็นรุนแรงเนื้อไม้จะมีสีขาวครีมต่อมาเนื้อไม้จะฟ่าม เบา และยุ่ย
ลักษณะดอกเห็ด ในช่วงที่มีความชื้นสูงจะพบดอกเห็ดมีลักษณะเป็นแผ่นครึ่งวงกลม ไม่มีขน ไม่มีก้านชูดอก (stalk) ดอกอ่อนจะลื่นเหมือนหนัง ดอกแก่แข็งกระด้าง สีของดอกด้านบนมีสีส้มแก่และอ่อนสลับกันเป็นวงขอบดอกมีสีขาว ด้านล่างมีสีส้มอ่อนและมักเกิดซ้อนกันเป็นชั้นๆ จำนวนดอกเห็ดและขนาดขึ้นกับความชื้นและอายุของดอก
ในส่วนของการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรครากขาวยางพารานั้น กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้เกษตรกรสำรวจสวนยางพาราอย่างสม่ำเสมอ ใช้วิธีการจัดการแบบผสมผสานทั้งการปฏิบัติทางเขตกรรม
การทำความสะอาดแปลงปลูก การใช้สารเคมี และเพิ่มประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิปักษ์กับเชื้อราสาเหตุในดินโดยเริ่มตั้งแต่
1.การเตรียมพื้นที่ปลูกยางควรทำลายตอไม้ ท่อนไม้เก่าออกให้หมด ไถพลิกหน้าดินตากแดด เพื่อกำจัดเชื้อราที่เจริญอยู่ในดินและในเศษไม้เล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่ในดิน
2.ในแหล่งที่มีโรคระบาด หลังการเตรียมดินควรปล่อยพื้นที่ว่างไว้ประมาณ 1 - 2 ปี หรือปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว เพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชและจุลินทรีย์ในดินบางชนิดที่เป็นพิษต่อเชื้อราสาเหตุโรครากขาว
3.แปลงยางพาราที่มีประวัติการเป็นโรครากขาวมาก่อน แนะนำให้ใช้กำมะถันผงผสมดินในหลุมปลูก 240 กรัมต่อหลุม เพื่อปรับสภาพ pH ดิน ให้เป็นกรด เหมาะต่อการเจริญของเชื้อปฏิปักษ์ต่อโรครากขาว และป้องกันการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรครากขาวยางพารา
4.หลังจากปลูกยางไปแล้ว 1 ปี ควรสำรวจแปลงยางสม่ำเสมอ ตรวจดูพุ่มใบเพื่อหาต้นยางที่เป็นโรครากขาว ในพื้นที่ที่ไม่เคยพบโรคมาก่อน ควรสำรวจ ปีละ 1 - 2 ครั้ง ส่วนในพื้นที่ที่เคยพบโรคมาแล้วให้สำรวจซ้ำทุก 3 เดือน ต้นยางเป็นโรครุนแรงไม่สมารถรักษาได้ควรขุดต้นเผาทำลายและรักษาต้นข้างเคียงโดยการใช้สารเคมี
5.ต้นยางพาราที่อายุน้อยกว่า 3 ปี ที่เป็นโรครากขาว ควรขุดเผาทำลายให้หมดเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคต้นยางที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรขุดคูล้อมบริเวณต้นเป็นโรค (กว้าง 30 เซนติเมตร ลึก 60 เซนติเมตร)เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดไปยังต้นอื่นโดยการสัมผัสกันของราก และขุดลอกคูทุกปี
6.ไม่ควรปลูกพืชร่วม หรือพืชแซมที่เป็นพืชอาศัยในพื้นที่ที่เป็นโรครากขาวยางพารา เช่น ทุเรียน ขนุน จำปาดะ มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ไผ่ ส้ม โกโก้ ชา กาแฟ เนียงนก พริกไทย พริกขี้หนู น้อยหน่า มันสำปะหลังสะเดาบ้าน สะเดาเทียม ทัง มะเขือเปราะ กระทกรก มันเทศ สะตอ ลองกอง และมังคุด
7.ใช้สารเคมีสำหรับรักษาต้นที่เป็นโรคเพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นข้างเคียงเพื่อป้องกันโรค โดยขุดร่องเล็กๆ รอบโคนต้น กว้าง 15 - 20 เซนติเมตร เทสารเคมีลงในร่องรอบโคนต้น โดยใช้สารเคมีทุก 6 เดือนเป็นเวลา 2 ปี ได้แก่ ไตรเดอร์มอร์ฟ 75% EC ,ไซโปรโคนาโซล 10% SL , โปรปิโคนาโซล 25% EC , เฮกซะโคนาโซล5% EC , เฟนิโคลนิล 40% FS (อัตราตามคำแนะนำในฉลาก)
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2955-1514 , 0-2955-1626 หรือ https://www.doae.go.th/doae/upload/files/White_Root_Disease_110761.pdf
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี