เลขาฯสทนช.ย้ำกรมชลฯเร่งระบายเขื่อนแก่งกระจาน ชี้น่าห่วงสุด14-19ส.ค.นี้ อิทธิพล"พายุเบบินคา"ดูดมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ดันทะลักเทือกเขาตะนาวศรี ข้ามฝั่งเมียนมาเข้าไทย ทำ"เพชรบุรี"อ่วมหนักอีกรอบ เตือนพื้นที่เสี่ยงรับพายุ เชียงใหม่ เชียงราย ถ้าหลวง-ขุนน้ำนางนอน พะเยา น่าน พื้นที่แนวแม่น้ำโขง เผย"บิ๊กฉัตร"ลงพื้นที่ติดตามเขื่อนขุนด่านฯมีน้ำไหลเข้ามากใกล้ระดับกักเก็บ จ่อระบายเพิ่มวันละ3-5ล้านลบ.ม.ไว้รองรับฝนมากร่องฝนลงภาคกลางเดือนก.ย.-ต.ค.
14 ส.ค.61 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ กับทุกหน่วยงานด้านน้ำ ว่า ให้ทุกพื้นที่จับตาอิทธิพลพายุโซนร้อนเบบินคา อย่างใกล้ชิด ซี่งส่งผลกระทบกับไทยวันที่ 14 - 19 ส.ค.และกระทบมากที่สุดช่วงวันที่ 17 - 18 ส.ค.ตั้งแต่ภาคเหนือตอนบน จ.เชียงราย พื้นที่เสี่ยงมากแนวพื้นที่เทือกเขาติดสองประเทศไทย - ลาว และบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คาดว่ามีฝนตกมาก 90 มม.รวมถึง จ.เชียงใหม่ , พะเยา , น่าน จังหวัดแนวชายขอบแม่น้ำโขง
ทั้งนี้ ยังเน้นอีกช่วงวันที่ 16 - 18 ส.ค.มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงขึ้น มีผลกระทบภาคตะวันตก จ.ตาก , กาญจนบุรี , เพชรบุรี ภาคตะวันออก จ.นครนายก แนวเขาใหญ่ เขื่อนขุนด่านปราการชล โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี จะลงติดตามรับมือล่วงหน้าสถานการณ์น้ำเขื่อนขุนด่านฯ มีน้ำไหลเข้าเพิ่มมากขึ้น วันที่ 15 ส.ค.โดยให้กรมชลประทาน ทำโมเดลจำลองปรับเพิ่มระบายน้ำ 3 - 5 ล้าน ลบ.ม.โดยไม่ส่งกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน เนื่องจากน้ำในลำน้ำนครนายก มีมากขึ้นด้วย
"สิ่งที่กังวลมากที่สุดหากพายุโซนร้อนส่งแรงดูดมากขึ้นอาจส่งผลให้มรสุมไหลข้ามเทือกเขาตะนาวศรี เข้าฝั่งมาไทย จากประเทศเมียนมา ที่กำลังมีฝนตกมากเกิดอุทกภัยหนัก ตอนนี้เราโชคดีมีเทือกเขากั้นไว้ ดังนั้น ช่วงนี้ต้องติดตั้งกาลักน้ำออกจากจากเขื่อนแก่งกระจาน มากขึ้น ยังมีน้ำ 102% เพราะประตูระบายออกเล็ก น้ำล้นสปิลเวย์ 34 ซม.อย่าชะล่าใจฝนตก มีมรสุมกำลังแรงมากอาจดันไหลทะลักมาฝั่งไทย ในอดีตเคยหลงเข้ามา ขอให้เร่งระบายโดยไม่ล้นลำน้ำเพชรบุรี ช่วงตัวเมืองเพชร รับได้ในอัตราไม่เกิน 150 ลบ.ม.ต่อวินาที และเขื่อนในภาคอีสาน ไม่ให้เกินควบคุมร้อยละ 80 ที่ต้องเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้งด้วย รวมทั้งปริมาณฝนจะลดลงในช่วงวันที่ 20 ส.ค.ในภาคอีสาน ภาคเหนือ และน่าห่วงร่องฝนจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน ช่วงปลายเดือนนี้ ถึงเดือน ก.ย.และ ต.ค.ให้เตรียมแผนรับมือไว้ในอนาคตอาจมีพายุเข้ามาด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว
เลขาธิการ สทนช.กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความเสี่ยงที่ฝนตกแนวภาคตะวันตก และตะวันออก เพราะเขื่อนใหญ่ เขื่อนขนาดกลาง มีน้ำสูง ที่ต้องจับตา จ.ตาก , กาญจนบุรี , นครนายก จากนี้ไปถึงวันที่ 19 ส.ค.มีฝนตกหนักมาก น้ำป่าไหลหลาก และพื้นที่เสี่ยงรับพายุโซนร้อน แม้เขื่อนต่างๆ ได้พร่องน้ำระบายน้ำไปมากแล้วก็ตาม เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกบนเทือกเขา ไม่สามารถวัดปริมาณได้ชัดเจน จะเห็นว่าเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก รับน้ำจากเขาใหญ่ที่มีฝนตก ประมาณ 100 มม.วันเดียวมีน้ำเข้าอ่าง 15 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้ใกล้ระดับกักเก็บ 80% มีความจุ 245 ล้าน ลบ.ม.เพราะต้องเตรียมพื้นที่ว่างในอ่างรับน้ำฝนในช่วง 2 - 3 เดือนนี้
ส่วนเขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีน้ำมาก 103% ได้พร่องน้ำออกให้มากกว่าล้นสันสปริงเวย์ กรมชลประทานไปติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มขึ้น 25 ตัว ร่วมทั้งเขื่อนแก่งกระจาน ติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มด้วย เพราะเขื่อนเหล่านี้ประตูระบายน้ำมีขนาดเล็ก รวมทั้งเขื่อนขนาดกลาง ต้องแก้ไขในอนาคต สำหรับเขื่อนวชิราลงกรณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เร่งรับายน้ำไม่กระทบท้ายน้ำ อัตรา 43 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และเขื่อนรัชชประภา ได้ปรับระบายน้ำเพิ่มขึ้น รวมถึงเขื่อนศรีนครินทร์ ต้องลดน้ำให้กว่าต่ำเกณฑ์ควบคุม
"ตอนนี้ทุกเขื่อนเร่งระบายออก โดยใช้ท่อสูบน้ำทุกแห่งเพราะประตูระบายน้ำเล็ก ต้องปรับปรุงในอนาคต จะเห็นวิกฤตการณ์ น้ำมากภาคตะวันตก ภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือ ฝนน้อยอย่าพร่องน้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มากไป และช่วงเดือน ก.ย.ร่องพาดผ่านตอนกลางของประเทศ พบว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมาน้ำในเขื่อนมาก 7 แห่ง 2 วัน น้ำเข้า 100 ล้าน ลบ.ม.ต้องจับตาเขื่อนขุนด่านปราการชล หากมีฝนมากจะป้องกันอย่างไร ตอนนี้มีน้ำใกล้ 80% เฝ้าระวังพิเศษ ให้เกิดความมั่นใจว่ายังรับน้ำได้ ช่วงฝนจริงๆ น้ำมามากขึ้น" นายสมเกียรติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี