เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ปรับตัวปลูกพืชผสมผสานขายเป็นรายได้เสริมควบคู่กับการทำสวนยางช่วงวิกฤติราคายางตกต่ำ ทำให้มีรายได้ทั้งจากการทำสวนยางและปลูกพืชผสมผสานเดือนละเกือบ 2 หมื่นบาท ขณะ กยท.ให้ความรู้การทำอาชีพเสริม พร้อมสนับสนุนต้นทุนและช่องทางตลาด
14 ส.ค.61 นายวรรณชัย พาพานต์ อายุ 37 ปี เกษตรกรบ้านสวายสอ ม. 15 ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรชาวสวนยาง ตามนโยบายรัฐบาลในการลดพื้นที่ปลูกยาง ได้หันมาปลูกพืชผสมผสานขายเป็นรายได้เสริม ควบคู่กับการทำสวนยางพารา
โดยนายวรรณชัย ได้รับเงินสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นทุนในการทำอาชีพเสริมตามโครงการฯ เพื่อนำไปซื้อปุ๋ย หรือปัจจัยการผลิตจำนวน 5,000 บาท โดยขณะนี้ได้ปลูกข่าเหลือง ตะไคร้ และถั่วลิสง เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ สามารถเก็บผลผลิตหมุนเวียนขายได้ตลอดทั้งปี ทำให้มีรายได้จากการปลูกข่า ตะไคร้ และถั่วลิสง เฉลี่ยเดือนละ 6 – 7 พันบาท ส่วนรายได้จากการขายยางก้อนถ้วยก็ประมาณเดือนละ 10,000 บาท รวมจะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละเกือบ 20,000 บาท
นายวรรณชัย บอกว่า ปกติครอบครัวมีอาชีพทำนา หลังจากมีการส่งเสริมให้ปลูกพืชทางเลือกครอบครัวจึงตัดสินใจลงทุนปลูกยางพารา ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกยางจำนวน 16 ไร่ เปิดกรีดไปแล้ว 8 ไร่ แต่ปัจจุบันราคายางค่อนข้างตกต่ำโดยเฉพาะยางก้อนถ้วยเหลือเพียงกิโลกรัมละ 18 – 20 บาทเท่านั้น ทำให้รายได้จากการขายยางก้อนถ้วยลดลงเกือบเท่าตัว
หลังจากทาง กยท.มีโครงการให้เกษตรกรทำอาชีพเสริมควบคู่กับการปลูกยาง จึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้ พร้อมทั้งให้เงินสนับสนุนหรือเงินขวัญถุงในการซื้อปัจจัยการผลิตด้วย ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงภาวะราคายางตกต่ำได้ ทำให้ปัจจุบันนอกจากจะมีรายได้จากการทำสวนยางแล้ว ยังมีรายได้เสริมจากการปลูกพืชผสมผสมอีกเดือนละ 6 – 7 พันบาทด้วย
ด้านนายธนพันธ์ ชำนาญธนา ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำ ทางการยางแห่งประเทศ หรือ กยท. ก็มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกยางทำอาชีพเสริม อาทิ การปลูกพืชผสมผสาน หรือเลี้ยงสัตว์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ พร้อมกันนี้ยังมีเงินสนับสนุนให้กับเกษตรกรที่ต้องการทำอาชีพเสริมรายละ 5,000 บาท เพื่อซื้อปัจจัยการผลิตด้วย นอกจากนั้นทาง กยท.ยังมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรทำยางก้อนถ้วยคุณภาพดี เพื่อให้สามารถขายได้ราคาสูงด้วย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า จ.บุรีรัมย์ มีเกษตรกรปลูกยางพารากว่า 18,000 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 235,000 ไร่ เปิดกรีดแล้วประมาณ 200,000 ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี