วงเสวนาถอดบทเรียนถ้ำหลวง13หมูป่า! “อธิบดีปภ.” ชี้ เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งโลกร่วมแรงสามัคคี ด้าน “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” ยันใช้อำนาจตามกฎหมาย แนะ “รายงาน-แก้ปัญหาให้เร็ว” แม้ข้ามสายงาน ติงสื่อเสนอข้อมูลไม่ตรงทำปั่นป่วน ด้าน ขณะที่ “กรมอุทยานฯ” รับ พลาดทำฐานข้อมูล จ่อปรับปรุงในอนาคต ส่วน “รองอธิบดีปภ.” ย้ำแก้ปัญหาตามสถานการณ์
15 ส.ค.61 ที่โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร มีการจัดเสวนาในหัวข้อ “ถอดบทเรียนภายหลังการปฏิบัติงาน ค้นหา กู้ภัย ช่วยเหลือผู้สูญหายบริเวณถ้ำหลวง ขุนน้ำ-นางนอน จังหวัดเชียงราย (After Action Review :AAR) โดยนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวเปิดงานว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ขุนน้ำนางนอน ทำให้เกิดกระแสความตื่นตัว ความสนใจไปทั่วโลก ซึ่งการถอดบทเรียนครั้งนี้ถือเป็นเวทีระดับประเทศ อีกทั้งการจัดการสาธารณภัยในระดับชาติครั้งนี้มีความหมาย เนื่องจากเกิดความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคพลเรือน ทหาร องค์กรเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศไทยและของชาวโลกที่ร่วมกันแสดงความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวค้นหาผู้สูญหายจนประสบความสำเร็จ และเป็นที่ประทับใจไปทั่วโลก
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นที่ไหนอีก มีการสูญเสีย ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย และไม่มีใครคิดว่าผลจะเป็นแบบนี้ ภายหลังเสร็จภารกิจเกิดคำถามขึ้นมากมาย ทำไมไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งภารกิจดังกล่าวมีคนปฏิบัติหน้าที่กว่า 1 หมื่นคนตลอด 17 วัน ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือทุกคนต้องการให้เด็กทั้ง 13 ปลอดภัย ที่ผ่านมาเกิดคำถามมาขึ้นว่าตนใช้อำนาจอะไรในการสั่งงานหน่วยงานต่างๆ ก็ใช้กฎหมายพ.ร.บ.สาธารณภัย พ.ศ.2550 โดยประยุกต์ใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ยืนยันได้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบทุกอย่าง
“บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่า จะเกิดภัยใดๆขึ้นการรายงานสถานการณ์ต้องเร็วขึ้น ไม่ว่าจะข้ามสายงาน และการแก้ปัญหาต้องทำให้รวดเร็ว ต้องชนะเวลากับน้ำให้ได้ สำหรับอุปสรรคที่เกิดขึ้น สื่อเป็นส่วนหนึ่ง ที่ไม่ได้กรองข่าว กรองภาพ รวมถึงการดักฟังสัญญาณวิทยุที่ไม่ได้รายงานตามข้อเท็จจริง อย่างวันแรกมีการรายงานว่านำเด็กออกมา 6 คน ทั้งที่เรานำออกมา 4 คนทำให้สังคมเกิดคำถามขึ้นมามากมาย” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นาวาเอกศุภชัย ธนสารสาคร รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าจะให้เด็กออกจนกว่าน้ำจะลด แต่ก็ได้ปรับเปลี่ยนตามที่ได้เห็นกันแล้ว ซึ่งถ้ำหลวงเป็นถ้ำที่มีความยากลำบากอันดับต้นๆ ของประเทศ เพราะมีพื้นที่คับแคบ ขณะที่สภาพการไหลของน้ำภายในถ้ำไหลแรง ทำให้การทำงาน ทำได้ยากลำบาก ส่วนนักดำน้ำของกองทัพเรือเป็นนักดำน้ำทะเล เมื่อมีการดำน้ำภายในถ้ำก็ต้องมีศาสตร์และความชำนาญเฉพาะตัว รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำน้ำก็มีความแตกต่างกัน แต่อย่างไรทุกคนก็มีความมุ่งหวังที่จะทำให้เด็กๆ ออกมาได้อย่างปลอดภัย
นางพิชญา เมืองเนาว์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์มีบทบาทเชิงบริหารจัดการข้อมูลข่าวสาร มีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้แก่ส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงประชาชน เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการสนับสนุนแนวทางปฏิบัติข้อมูลข่าวสารกับศูนย์อำนวยการค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย (ศอร.) และได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ถ้ำหลวงเพื่ออำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ถ้ำหลวง อยากให้หน่วยงานต่างๆ มองสื่อในแง่ดี เพราะสื่อรอบนี้ถือว่าให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามระเบียบในพื้นที่มากที่สุดแล้ว
ส่วนนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หน่วยงานเรามีการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ไปกว่า 200 ราย ทำหน้าที่สนับสนุนในการเจาะหาโพรงถ้ำ ซึ่งการเจาะอุโมงค์ต่างๆ ได้ขออนุญาตตามกฎหมายแล้ว และยังช่วยหน่วยซีลระบายน้ำออกมา ส่วนปัญหาอุปสรรคที่พบ ด้วยความที่เป็นวนอุทยาน เราไม่สามารถตรวจสอบคนเข้าออกได้ ถือเป็นบทเรียนต้องให้กลับมาทบทวนเนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างที่จะอันตราย นอกจากนี้ในเรื่องของฐานข้อมูลเรื่องถ้ำ ทางกรมฯยังมีน้อยเพราะนักท่องเที่ยวยังให้ความสนใจน้อยกว่าแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และมักท่องเที่ยวในถ้ำตื้นๆ ทำให้การสำรวจค่อนข้างน้อยและแทบไม่ได้จัดทำ รวมถึงผังภายในถ้ำแต่ละพื้นที่ เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนที่ดี ที่ทำให้ทางกรมให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น ขณะที่การสูบน้ำได้ดำเนินการไว้บ้างแล้ว และมีนักธรณีวิทยาช่วยตัดสินใจเพื่อให้เกิดความถูกต้องในการระบายน้ำมากที่สุด
นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในเชิงพื้นที่จะเข้าไปตามอำนาจที่ผู้ว่าฯ มีตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและแผนป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยไม่ใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือประมาทเลินเล่อ นอกจากนี้ทางกรมยังทำหน้าที่ระดมความช่วยเหลือและความร่วมมือต่างๆทั้งการสูบน้ำภายในและภายนอกถ้ำเพื่อให้นำเด็กออกจากถ้ำได้สะดวกขึ้น ภัยครั้งนี้ไม่ได้เหมือนภัยทั่วไปแต่มีพัฒนาการของมัน มีความซับซ้อนยุ่งยากทำให้ต้องมีการขอยกเว้นระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายต่างๆเพื่อให้การทำงานสะดวกมากขึ้น เราพยายามแก้ตามสถานการณ์ พัฒนาการทั้งเครื่องมือและการค้นหา
พล.ต.วุฒิไชย อิศระ ผอ.โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กล่าวว่า ในทางการแพทย์ ข้อมูลทางการแพทย์ให้ได้เฉพาะขั้นเตรียมการ แต่เมื่อนำเด็กออกมาเราแทบไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย เพราะถือว่าโนวนิวส์อีสกู๊ดนิวส์ กล่าวคือการไม่มีข่าวถือเป็นเรื่องดี นอกจากนี้การเตรียมการองค์ความรู้ในด้านภัยพิบัติเพื่อรับมือในอนาคต แต่องค์ความรู้ดังกล่าวจะไม่สำเร็จได้เลยถ้าไม่มีการซักซ้อมเพื่อให้รู้ข้อผิดพลาดต่างๆ ซึ่งการบริหารทางการแพทย์ไม่ใช่แค่เพาะร่างกายแต่ต้องเป็นด้านสภาพจิตใจด้วยโดยเฉพาะในภาวะกดดันเมื่อเจอภัยพิบัติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี