สนท.บุกศธ.ขอยกเลิกกฎกระทรวง ยันหากไม่มีการแก้ไขพร้อมบุกทวงถามซ้ำ ด้าน"หมอธี"ชี้อย่าใช้การแก้กฎเป็นประเด็นทางการเมือง
17 ส.ค.61 สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึก เรื่อง ข้อเรียกร้องของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่าน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) โดยมี นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.รับเรื่องแทน โดยในหนังสือเรียกร้องระบุว่า
กรณีเมื่อวันที่ 14 ส.ค.61 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ฉบับแก้ไข ตามเสนอของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีสาระสำคัญต่างจากกฎกระทรวงฉบับก่อนหน้า 3 ประการ ดังนี้
1.ห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไมสงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศิลธรรมอันดีของประชาชน
2.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม เดิม ที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะเท่านั้น และกำหนดเพิ่มเติมห้ามกระทำการลามกอนาจาร
3.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พักเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นกาณสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น เดิม ห้ามเฉพาะเวลากลางคืน
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ในฐานะองค์กรกิจกรรมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เล็งเห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีข้อบัญญัติซึ่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งมีเนื้อความ ความหมายกำกวม สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือสำหรับปิดกั้นสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพทางการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ยกเลิกร่างกฏกระทรวงฉบับดังกล่าว และให้ความสำคัญกับสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นเจ้าของชีวิตของตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทั้งนี้ โปรดตระหนักว่า นักเรียนและนิสิต นักศึกษา คือผู้ที่จำต้องแบกรับผลจากการดำเนินกิจกรรมทั้งปวงของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ
ขณะที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวว่า พวกเราอยากเรียกร้องให้รัฐบาล และกระทรวงศึกษาฯ ยกเลิกร่างกฎกระทรวงดังกล่าว โดยเฉพาะข้อที่ห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม สามารถตีความได้กว้างไม่ต่างจากกฎหมายทางการเมือง ซึ่งการรวมกลุ่มควรกำหนดให้ชัด เพราะกฎหมายไม่มีตา ขึ้นกับคนใช้ ถ้าวันหนึ่งมีการตีความว่าการแสดงออกทางความคิด คือ การมั่วสุม ต่อไปเด็กจะแสดงความคิดเห็นให้แก่รัฐบาล และ ศธ.ได้รับรู้ได้อย่างไร จึงอยากขอให้ยกเลิกร่างกฎกระทรวง และขอให้ ศธ.ให้คำสัญญาว่าสิทธิเสรีภาพของนักเรียน นักศึกษาจะไม่ถูกคุกคาม เพราะถึงวันหนึ่งหากมีการเปลี่ยนรัฐบาล รัฐมนตรี หรือแม้แต่ปลัด ศธ.จะมีอะไรเป็นหลักประกันว่ากฎกระทรวงนี้จะไม่ถูกนำมาใช้ปิดปากพวกเราในการแสดงออก
ด้าน นายการุณ กล่าวว่า เจตนารมย์ของ ศธ.ในการแก้ไขร่างกฎกระทรวงนี้ ก็เพื่อดูแลคุ้มครอง ดูแลความประพฤติของนักเรียน นักศึกษา ในทางที่ดี ไม่มีเจตนาที่จะไปควบคุมสิทธิเสรีภาพแต่อย่างใด การปรับแก้ไขเพิ่มเพื่อให้ทันสมัยและทันเหตุการณ์ ส่วนที่กลุ่ม สนท.มีข้อกังวลเรื่องห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม ก็หมายถึงอาจจะมีการรวมกลุ่มมั่วสุมอบายมุขทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ก่อเหตุทะเลาวิวาท แข่งรถจักรยานยนต์ เสพยา ฯลฯ ไม่เกี่ยวกับการรวมกุมทำกิจกรรม หรือรวมกลุ่มทำงาน หรือกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องกระทำพฤติกรรมทางชู้สาวไม่เหมาะสมนั้น เพราะเป็นห่วง เนื่องจากกรณีที่ผ่านมามีภาพโป๊เปลือย ที่ไม่เหมาะสมปรากฎออกมา ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ศธ.ในฐานะดูแลนักเรียน นิสิตนักศึกษา ก็ต้องมีมาตรการมากำกับดูแล
"ดีใจที่น้องๆ ได้เดินทางมา ศธ.ก็จะรับข้อเสนอดังกล่าวนี้ไปพิจารณา ซึ่งเจตนาของร่างกฎกระทรวงที่ห้ามรวมกลุ่ม มั่วสุม ยืนยันว่า ศธ.ไม่มีนัยยะทางการเมือง เพียงแต่ห่วงว่าจะไปมั่วสุมอบายมุกต่างๆ หรือรวมกลุ่มกันทำสิ่งที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จึงปรับแก้กฎเกี่ยวกับความประพฤติของนักเรียน นักศึกษา และไม่ได้ไปควบคุมสิทธิใดๆ ทุกคนยังมีเสรีภาพตามปกติ ซึ่ง รมว.ศธ.ก็ทราบถึงข้อกังวลของน้อง จึงได้ย้ำให้มาทำความเข้าใจถึงเหตุผลในการแก้ไขร่างดังกล่าว และเป็นเรื่องดีที่ทุกคนมาให้ข้อสังเกต แต่ก็อยากให้ศึกษารายละเอียดเชิงลึกด้วยว่าเจตนาไม่ได้ต้องการควบคุมสิทธิ" นายการุณ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า วันนี้พวกเรารู้สึกผิดหวังกับคำชี้แจงหลังจากที่พวกเราได้แลกเปลี่ยนจากกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านปลัด ศธ.และโฆษก ศธ.เพราะกระทรวงศึกษาฯ ไม่ได้มีแนวทางที่เป็นรูปธรรมเลย ว่าหากมีการใช้กฎกระทรวงดังกล่าวนี้แล้ว ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของนักเรียน นิสิต นักศึกษา แล้วทางกระทรวงฯ จะรับมืออย่างไร ซึ่งปลัด ศธ.และโฆษก ศธ.ให้เพียงความหวังดี และเจตนาที่ดี ซึ่งตนก็จะเชื่อ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ และปลัด ศธ.คนใหม่เข้ามา แล้วมีเจตนาไม่ดี แล้วนักเรียน นิสิต นักศึกษาจะทำอย่างไร หรือหากวันหนึ่งโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยออกกฎมาว่า ห้ามนักเรียน นิสิต นักศึกษา ออกไปชุมนุมทางการเมือง ห้ามออกไปมั่วสุม จะทำอย่างไร เพราะในช่วง 6 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีการออกกฎห้ามนักศึกษาชุมนุมมั่วสุม จึงชัดเจนว่าเป็นการพยายามที่จะปราบปรามนักศึกษาให้อยู่ในกรอบของรัฐบาลไม่ให้ออกมาคัดค้านในสิ่งที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้อง
"กระทรวงศึกษาฯ ควรมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมกว่านี้ในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพความเป็นมนุษย์ของพวกเรา ดังนั้น หลังจากวันนี้แล้ว ถ้าเรื่องร้องเรียนการขอยกเลิกกฎดังกล่าวนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ทางกระทรวงศึกษาฯ และรัฐบาล ยังยืนยันว่ากฎกระทรวงนี้จะต้องดำเนินต่อไป และให้บังคับใช้จริง พวกเราจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อทวงถามว่า เสียงที่พวกเราพูดไปนั้นมันเปล่าประโยชน์ใช่หรือไม่ เสียงที่เราพูดไปนั้นท่านไม่ได้รับฟังใช่หรือไม่ ผมพูดได้เลยว่าขณะนี้มีกลุ่นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงนี้ 80% ไม่ใช่มีแต่สภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพียงองค์กรณ์เดียวที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น พวกเราจะกลับมาทวงถามอีกครั้ง เพราะหลายคนมีข้อสงสัยที่ต้องการได้หลักประกันในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ" นายพริษฐ์ กล่าว
ขณะที่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากปลัด ศธ.ถึงกรณีที่สหภาพนักเรีนน นิสติ นักศึกษา มายืนข้อเรียกร้องให้แก้ไขกฎกระทรวงแล้ว และตนก็ขอยืนยันว่า กฎกระทรวงนี้มีมานานแล้ว ซึ่งเกี่ยวกับระเบียบที่ใช้กับนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และการแก้ไขร่างกฎกระทรวงนี้ ก็เพื่อให้มีกฎกกลางขึ้นมาดูแลนักเรียนที่มีพฤติกรรมทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และปัจจุบันมีการมั่วสุมอบายมุกที่แย่ๆ เช่น มั่วสุมทางเพศ มั่วสุมเสพายาเสพติด ซึ่งเมื่อก่อนกฎนี้ไม่มี จึงปรับแก้กฎนี้ และเดิมมีกฎห้ามออกบ้านในยามวิกาล แต่เห็นว่าทุกคนออกไปเรียนหนังสือเจอสภารถติดกับบ้านดึก จึงแก้ไขให้ทำได้ ก็ถือว่าแก้ไปในทางที่ดี และไม่มีเรื่องใดไปเกี่ยวกับการเมืองแม้แต่นิดเดียว
"กฎนี้เราไม่ได้จะนำมาปรับใช้กับการชุมนุมทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะใช้กับเด็กนักเรียนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จึงไม่เกี่ยวกับนิสิต นักศึกษา เป็นการตีความกฎของโรงเรียน ส่วนมหาวิทยาลัยก็มีกฎของมหาวิทยาลัย ไม่เกี่ยวกับทางการเมือง ส่วนถ้าจะให้ยกเลิกกฎทำไมไม่ไปบอกให้ยกเลิกก่อนนี้ เพราะกฎนี้มีมานานแล้ว เราเพียงแต่แก้ไขให้ดีขึ้น อย่าให้ตรงนี้มาเป็นประเด็นกับทางการเมืองเลย กฎนี้ก็ใช้กับโรงเรียนกว่า 3 หมื่นโรง แล้วไปบอกให้ยกเลิกกฎกระทรวง ก็ดูว่าจะทำได้หรือเปล่า" นพ.ธีรเกียรติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี