นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและพบปะสมาชิกสหกรณ์ เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคในการเดินหน้าโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ปี 2560/61 ณ แปลงของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด หมู่ 3 ต.วังมะสะ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่การปลูกข้าวเป็นการปลูกพืชชนิดอื่นที่ตลาดต้องการ เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่สูงขึ้น ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชทางเลือกที่ใช้น้ำน้อยและแนวโน้มของตลาดมีความต้องการสูง โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ขานรับนโยบายและเร่งดำเนินการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ปี 2560/61 ในพื้นที่นำร่อง 2 จังหวัด รวม 5,800 ไร่ คือ จังหวัดพิษณุโลก 2,800 ไร่ และจังหวัดอุตรดิตถ์ 3,000 ไร่
นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดและสหกรณ์ ชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกสหกรณ์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เป้าหมาย การสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับเรื่องของตลาดและราคารับซื้อผลผลิตที่เป็นธรรม การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการผลิตที่เน้นหลักวิชาการ ซึ่งสหกรณ์จะเข้ามาดูแลพื้นที่แปลงเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อบริหารจัดการในทุกกิจกรรมการผลิตร่วมกับเกษตรกรสมาชิก เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินโครงการฯ
“ขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เตรียมการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้แก่สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ นำไปให้สมาชิกกู้ยืมเพื่อเป็นทุนเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เฉลี่ยรายละ 3,000 บาท/ไร่ โดยได้เน้นย้ำให้เกษตรกรสมาชิกควบคุมดูแลคุณภาพผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้นอีกด้วย” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี