ล่าแก๊งตุ๋นแชร์ข้ามชาติ1,000ล้าน! ดีเอสไอประสานสิงคโปร์จับตัวการใหญ่
22 ส.ค.61 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบริษัท อีเกิ้ลเกทส์ กรุ๊ป จำกัด หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งในไทยมีความเสียหายมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ว่า ล่าสุดได้มีการจับกุม นายเดอร์ริค แมทธิว เคเลอร์ สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาได้ในระหว่างเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย ในฐานะนักท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต และได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาแล้ว
จากการสอบปากคำทราบว่ามีอาชีพเป็นนักแสดงอิสระอยู่ที่ประเทศจีน และได้รับการว่าจ้างจากตัวการใหญ่ชาวสิงคโปร์ให้มารับบทแสดงเป็น CEO ของบริษัทอีเกิ้ล เกทส์ กรุ๊ปจำกัด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท และตระเวนไปทำงานบรรยายชักชวนให้คนมาร่วมลงทุนกับบริษัทในหลายประเทศ แต่จากหลักฐานพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย ในวันนี้จึงได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในระหว่างการดำเนินคดี
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้ดำเนินการในความผิดร่วมกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันกู้ยืมเงินเพื่อเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556
สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ มีการกระทำความผิดในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีผู้ที่เชื่อว่าเป็นตัวการใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ โดยจัดงานใหญ่ บรรยายเพื่อชักชวนให้มีการลงทุนในหุ้นแบบต่างๆที่กำหนดขึ้น และมีผลตอบแทนสูงกว่าที่สถาบันการเงินทั่วไปให้ โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีหน้าที่การงานการเงินดี และมีการศึกษา เมื่อหลงเชื่อและร่วมลงทุนและโอนเงินแล้วเงินทั้งหมดจะถูกยักย้ายถ่ายโอน
“ตรวจสอบเบื้องต้นมีทั้งไปยังบัญชีเครือข่ายในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยมีความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยจะประสานข้อมูลร่วมกับ ปปง.และหน่วยงานต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสอบสวนขยายผลให้ถึงตัวการใหญ่ในสิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง เนื่องจากมีการหลอกลวงประชาชนในหลายประเทศ คาดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในต่างประเทศไม่น่าจะน้อยกว่า 1,000 ล้านบาทเช่นกัน” รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ ผอ.กิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้เข้าองค์ประกอบเป็นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เนื่องจากมีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน ดำเนินการเป็นขั้นตอน ในทุกประเทศที่เข้าไปหลอกลวงจะมีพฤติการณ์เดียวกัน โดยตัวการใหญ่ชาวสิงคโปร์จะเข้าไปหาแม่ข่ายในประเทศนั้น เพื่อชักชวนนักธุรกิจมาร่วมทุน
“เช่นที่ไทยจะมีผู้ร่วมขบวนการถึง 23 คน ซึ่งถูกออกหมายจับทั้งหมดแล้ว จับกุมผู้ต้องหาคนไทยได้ 12 คน และคนต่างชาติ 1 คน ส่วนตัวการใหญ่ชาวสิงคโปร์ ขณะนี้ได้ออกหมายจับแล้ว และอยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับต่างประเทศเพื่อพิสูจน์ทราบถิ่นที่อยู่ และขอให้ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป” พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี