การเดินทางกว่า 50 ปีของกรมส่งเสริมการเกษตร กับงานส่งเสริมให้เกษตรกรอยู่ดีกินดี เกษตรกรกว่า 7 ล้านคน พื้นที่การเกษตร กว่า 138 ล้านไร่ ที่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรได้ออกเดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนอย่างต่อเนื่องทำให้ในวันนี้สามารถพัฒนาเกษตรกรเป็น Smart Farmer 1,056,026 ราย มีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ที่มีเกษตรกรต้นแบบ 882 ราย แปลงใหญ่จำนวน 3,899 กลุ่ม แม่บ้านเกษตรกร 479,822 ราย กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร 19,151 กลุ่ม ยุวเกษตรกรทั่วประเทศ 165,216 ราย มีเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพเป็น Young Smart Farmer 7,598 ราย มีอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ที่คอยสนับสนุนงานทั้งประเทศ 75,138 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผลสำเร็จในการสร้างเกษตรกรที่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนากว่า 50 ปี
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษแรกตั้งแต่ พ.ศ.2510 กรมส่งเสริมการเกษตร ก่อตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่วิชาการความรู้เกี่ยวกับการเกษตรให้แก่เกษตรกร รวมทั้งมีการแต่งตั้งเกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอ เพื่อปฏิบัติงานควบคู่ในส่วนภูมิภาค ซึ่งในช่วงแรกถือเป็นการบุกเบิกงานส่งเสริมการเกษตร มีระบบฝึกอบรมเยี่ยมเยียนที่ถือเป็นต้นแบบการทำงานปัจจุบัน ในช่วง 10 ปีแรก จึงเกิดศูนย์ปฏิบัติการ ปี 2515 เกิดกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกลุ่มแรกที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มีเจ้าหน้าที่เคหกิจระดับอำเภอ เพื่อส่งเสริมด้านคหกรรมศาสตร์ เข้าไปสนับสนุนงานแม่บ้านเกษตรกร และเกิดศูนย์ขยายพันธุ์พืชแห่งแรก ที่ จ.พิษณุโลก
ช่วงทศวรรษที่ 2 ประมาณ พ.ศ.2521-2530 เป็นช่วงการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อรองรับการพัฒนาภาคการเกษตร มีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรหรือเกษตรตำบล เพื่อให้เกษตรกร 1 คน สามารถดูแลเกษตรกร 1,000 ครัวเรือน ทศวรรษที่ 3 พ.ศ.2531-2540 เป็นช่วงที่ประเทศไทยมีการเจรจาการค้ากับต่างประเทศมากขึ้น มีการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง รวมทั้งโครงการร่วมมือกับต่างประเทศหลายโครงการ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ต่างๆ เพื่อรองรับกำลังการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพ เช่น ศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อการผลิตและกระจายพืชพันธุ์ดี ศูนย์บริหารศัตรูพืชโดยชีววิธี จนเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 พ.ศ.2541-2550 เป็นช่วงพัฒนาเกษตรกรให้มีความมั่นคงและยั่งยืนในอาชีพ มีการตั้งศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร การส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน มีการจัดทำทะเบียนเกษตรกร และสมุดประจำตัวเกษตรกร จนถึงทศวรรษที่ 5 มีอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) เพื่อคอยสนับสนุนงานของเกษตรตำบล และขับเคลื่อนงานนโยบายต่างๆ มีการพัฒนาฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วย มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร การทำตลาดเกษตรกร การส่งเสริมการผลิตพืชในรูปแบบแปลงใหญ่
จนถึงวันนี้กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่สู่ความเป็น Digital DOAE เดินหน้าพัฒนาทักษะเกษตรกรเพื่อเตรียมเข้าสู่ Thailand 4.0 ซึ่งทิศทางการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2561 ได้ใช้หลักคิด 9 สมดุลสู่ความเป็นเลิศของภารกิจงานส่งเสริมการเกษตร หรือ Balance DOAE โดยยกระดับให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการเกษตร ผลประกอบการด้านการเกษตรต้องสมดุลทั้งต้นทุนและผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายวัฒนธรรมอันดีงาม ไม่ทำลายภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่วนเจ้าหน้าที่ จะต้องมีการกำหนดเนื้องานให้ชัดเจนวัดผลได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ
นอกจากนี้ การก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 6 พวกเราชาวกรมส่งเสริมการเกษตร ยังคงต้องทำหน้าที่เคียงคู่เกษตรกรดุจญาติมิตรเหมือนที่ผ่านมา งานส่งเสริมการเกษตรวันนี้ ผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย มีผลผลิตทางการเกษตรที่เราสามารถส่งเสริมตั้งแต่เป็นพืชท้องถิ่นจนส่งออกได้มากมาย โดยเฉพาะผลไม้ทั้ง ทุเรียน มังคุด มะม่วง มะพร้าวน้ำหอม ลำไย ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่หลายประเทศต้องการ รวมไปถึงกล้วยไม้ที่ประเทศไทยเปรียบเสมือน Land of orchids ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร พัฒนาวงการกล้วยไม้ทุกด้านจนทำให้เกิดองค์กรเกษตรกรที่เข้มแข็ง มีเครือข่ายการผลิตและตลาด เกิดนวัตกรรมจนประเทศไทยเป็นฐานพันธุกรรมกล้วยไม้ที่สำคัญของโลก และเป็นแหล่งกำเนิดของกล้วยไม้ 183 สกุล 1,224 ชนิด และเกษตรกรสามารถพัฒนาเป็น กลุ่มคลัสเตอร์กล้วยไม้ รวมไปถึงการเกิดธุรกิจเครือข่ายกล้วยไม้ รวมไปถึงไม้ดอกไม้ประดับอื่นๆ และพืชเศรษฐกิจอื่น พืชสมุนไพรและแมลงเศรษฐกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นศูนย์กลางประสานงาน พวกเราชาวกรมส่งเสริมการเกษตรทุกคน จึงภูมิใจที่มีส่วนทำให้กลายเป็นทั้งพืชที่สร้างมูลค่าและเป็นพืชที่นักส่งเสริมการเกษตรทุกคนภูมิใจ” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
ทั้งนี้ ผลงานแห่งความภาคภูมิใจทั้งหมดนี้ จะจัดแสดงให้ทุกคนได้ภูมิใจและร่วมส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจและสนับสนุนผลผลิตของเกษตรกร ในงานเกษตรสร้างชาติ 30 สิงหาคม -2 กันยายน 2561 นี้ ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี