เรียกสอบ‘พ.ต.ท.-ด.ต.’โยงเขมือบ‘ดินหลวง’ ไล่เช็คทุกจุดสร้างรถไฟฟ้าหวั่นซ้ำรอย
ความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) สั่งการให้ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2(ผบก.น.2) ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีรถบรรทุกขนดินที่ได้จากการขุดก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดและก่อสร้างทางรถไฟฟ้า บริเวณสี่แยกรัชโยธิน นำไปเทไว้บริเวณริมทางรถไฟใต้ทางด่วนกำแพงเพชร 2 เป็นที่ดินเอกชน และบริเวณจุดที่ก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร เพื่อตรวจสอบว่าเป็นทุจริตลักลอบนำดินดังกล่าวอันเป็นทรัพย์สินของทางราชการไปขาย ทำให้รัฐเสียหายหรือไม่ ทั้งนี้ พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ให้ดำเนินการสืบสวนดำเนินคดีผู้กระทำความผิดนั้น
วันนี้(29 ส.ค.61) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วยคณะคณะกรรมการฯ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า จากการมีประชาชนร้องเรียนว่ามีการนำดินของหลวงไปถมที่เอกชน จากการสืบสวนสอบสวนคดีคืบหน้าพอสมควรได้นัดประชุมรวบรวมข้อมูล รวมทั้งดูข้อสัญญาระหว่าง กทม.กับ รฟม.ว่าทำไว้อย่างไร ถามว่า พนักงานอิตาเลียนไทยระบุว่ามีตำรวจยศรอง ผกก. และ ด.ต. ไปเกี่ยวพัน
พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ถ้าหลักฐานพาดพิงไปถึงใครเราไม่ละเว้น ตำรวจเกี่ยวข้องทุจริตก็ต้องดำเนินคดีไม่ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยไหนก็ตาม ดินเป็นดินหลวงเป็นสมบัติของชาติการขนย้ายมีบริษัทรับเหมารับค่าขนย้ายจากภาษีราษฎรไปแล้ว ถ้าแอบเอาไปขายก็ต้องมีความผิดแต่บริษัทจะรับรู้เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ยังไม่ทราบอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอเวลาคณะกรรมฯทำงานก่อน เราพยายามรวบรวมหลักฐานทุกมิติเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้จะพิทักษ์ผลประโยชน์มหาศาล ถ้าดำเนินคดีอาญาผู้เกี่ยวข้องที่นำดินไปขายหน่วยงานที่รับผิดชอบก็สามารถฟ้องคดีแพ่งได้อีก ขณะนี้ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดอยู่ระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการฯ
จากนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชม. ว่า ผลการประชุมร่วมกับคณะกรรมการฯว่า เราต้องไปเอาร่างสัญญาทีโออาร์เพราะเป็นโครงการใหญ่ ขณะนี้ทำหนังสือถึง กทม.แล้วขอร่างสัญญา สอบปากคำบริษัท วิศวกรควบคุม และผู้ที่เกี่ยวข้องหลายราย ตนได้มอบหมายให้แต่ละคนไปสอบปากคำและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องจากการสืบสวนทราบว่า ตำรวจผู้ที่ประกอบธุรกิจรถขนส่ง แต่รับขนดินอย่างไรติดต่อกับบริษัทอย่างไรยังไม่มีข้อมูลคงต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
เมื่อถามว่า ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตำรวจทั้ง 2 นายหรือไม่ พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า จะเป็นใครก็ตามเราสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานหลักฐานถึงใครไม่ว่าคนทั่วไปใครก็ตามหรือเจ้าหน้าที่รัฐเราก็ไม่ละเว้น โดยต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ ตำรวจที่เกี่ยวข้องมีตำรวจ 1-2 ราย เป็นตำรวจสังกัด สน.พหลโยธิน ประกอบธุรกิจเรื่องการถมที่ ต้องดูรายละเอียดว่าไปรับจ้าง หรือไปเอาดินมาเฉยๆ คณะกรรมการฯ นัดสอบปากคำตำรวจดังกล่าวในวันที่ 31 ส.ค.นี้
พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ด้านคดีมีการสอบปากคำพยานฝ่ายผู้รับเหมาหลายปากแล้ว ดินที่ขุดมามีมหาศาลจำนวน แสนกว่าคิว การทำงานโครงการขนาดใหญ่ต้องมีแผนงาน แต่เรายังไม่เห็นแผนเราก็คงต้องไปสอบสวน นอกจากนี้ต้องขอความร่วมมือจากอาจารย์คณะวิศวกรรม หรือนักธรณีวิทยาเปรียบเทียบตัวอย่างดิน เราทำทุกมิติต้องใช้เวลาและความละเอียด
เมื่อถามว่า พบหลักฐานว่านำดินไปไว้ที่เอกชน พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลักฐานว่านำดินจากอุโมงค์แยกรัชโยธินไปทิ้งที่เอกชนจริง จึงได้ตั้งคณะกรรมการร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่วนจะยักยอกหรือลักทรัพย์อยู่ระหว่างสอบสวน ตามป.วิอาญา ไม่ตัดอำนาจสืบสวนของเจ้าหน้าตำรวจ ถ้าพบการกระทำผิดรัฐเป็นผู้เสียหายเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกล่าวโทษได้ จากนั้นทำหนังสือแจ้งผู้เสียหายให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีที่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ แต่ถ้าลักทรัพย์เป็นความผิดอาญาอันยอมความไม่ได้ตำรวจมีอำนาจที่ดำเนินการได้
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูรถที่เอาดินไปทิ้งว่าออกนอกเส้นทางหรือไม่ ทั้งหมดไม่น่ายาก แต่ต้องใช้เวลา ขณะนี้ก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายมีการเอาดินไปทิ้งหรือไม่ ต้องตรวจสอบ เพราะทำให้รัฐไม่สูญเสียผลประโยชน์ เปิดโอกาสให้หน่วยราชการมาใช้ดินได้ไม่ต้องตั้งงบประมาณในการถมดิน ซึ่งมาจากภาษีของราษฎร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี