7 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ เปิดเผยถึงเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะทำการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ว่าได้รับรายงานรายงานจาก ภ.จว.ยโสธร ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองยโสธร จับกุม นายวีรยุทธพงษ์ หรือท็อป สาธุชน อายุ 30 ปี (ผู้ต้องหาในคดีนี้) มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเป็นทั้งผู้เสพและนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้าภายในเขตตำบลในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร และเคยถูกจับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืนมาแล้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ได้ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบและได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหานำยาบ้ามาเสพและจำหน่าย บริเวณบ้านเลขที่ 107/3 ถ.ศรีบำรุง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปตรวจสอบตามสถานที่ได้รับแจ้ง พบผู้ต้องหาแสดงอาการมีพิรุธอย่างน่าสงสัยอย่างผิดปกติและพยานยามหลบหนี บริเวณหน้าบ้านเลขที่เกิดเหตุดังกล่าว ส.ต.ต.สะท้านฟ้า รักษาศิริ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อผู้ต้องหาเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ส.ต.ต.สะท้านฟ้าฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสกระสุนเข้าบริเวณปากและไปฝังในบริเวณคอ
จากนั้นผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีไปพร้อมกับยิงปืนใส่ยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอีก 2 นัด ผู้ต้องหาไปได้วิ่งหลบหนีไป จึงกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้จับกุมโดยดี ได้มีการต่อสู้โดยใช้เท้าถีบและเตะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เมื่อควบคุมตัวผู้ต้องหาได้จึงทำการตรวจตัวผู้ต้องหา จากการตรวจสอบบริเวณที่พบตัวผู้ต้องหา พบของกลางคือ 1.อาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก 2.ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 3 ปลอก 3.กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 9 นัด
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจำนวน 3 นัด และยอมรับว่าเสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ประเภทเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ผลการตรวจได้ผลบวก จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาในความผิดฐาน “พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตามไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัวไปและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์,ยิงปนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับผู้บังคับบัญชาดูแลสวัสดิการและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดข้อบกพร่อง ขณะเดียวกันได้สั่งการไปยังตำรวจทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ตามหลักยุทธวิธีตำรวจ การตรวจค้น จับกุม ต่างๆ เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อพี่น้องประชาชน ให้มีความปลอดภัยในการทำงานในทุกมิติและสัมฤทธิ์ผลในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี