‘บิ๊กเจี๊ยบ-บิ๊กแดง’ควงแขนลงใต้ สั่งเฝ้าระวัง‘โจรใต้’ลอบกัดช่วงเปลี่ยนกำลังตั้งแต่15ก.ย.
10 ก.ย.61 เฟซบุ๊ก “ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า” (กอ.รมน.ภาค.4 สน.) ได้เผยแพร่ภาพ และข่าวการลงพื้นที่ของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(รอง ผอ.รมน.) ซึ่งเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ พร้อมกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และว่าที่ ผบ.ทบ. , พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก และว่าที่ รอง ผบ.ทบ. , พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก และว่าที่เสนาธิการทหารบก โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) และ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ว่าที่ มทภ.4 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะที่เดินทางได้สวมชุมพลางสนาม ทบ. โดย พล.อ.อภิรัชต์ สวมชุดพลางของหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์(ทม.รอ.) ในฐานะเป็นทหารพิเศษ ประจำ ทม.รอ.
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ ระบุว่า วันนี้(10 ก.ย.61) เวลา 09.45 น. ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.เฉลิมชัย และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมประชุม ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ ผบ.ทบ. ร่วมเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวภายหลังประชุมว่า สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ภาค.4 สน.) เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ได้นำคณะผู้บังคับบัญชาที่จะปฏิบัติงานในปีหน้ามาร่วมประชุมด้วย สำหรับผลการประชุมเป็นการสรุปผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การก่อเหตุรุนแรง ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ประมาณร้อยละ 21 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีประเด็นว่าในห้วงเดือน ส.ค.61 มีการก่อเหตุหลายครั้ง ซึ่งได้มีการเน้นย้ำกับหน่วยปฏิบัติขอให้ได้ดำเนินการ ดูแล แก้ไข และติดตามผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
ในขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำในเรื่องของการรับ-ส่งหน้าที่ ไม่ให้มีปัญหาในช่วงรอยต่อ และให้ระมัดระวังในเรื่องการปฏิบัติการ เพราะตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป จะมีการสับเปลี่ยนกำลังของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ซึ่งอาจจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้จังหวะนี้ในการสร้างสถานการณ์ได้
ส่วนในภาพรวมการบริหารงานในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากเรื่องสถิติการก่อเหตุรุนแรงที่ลดลงแล้ว ด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การลงทุนในพื้นที่ มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ให้การสนับสนุนในเรื่องความมั่นคง ค่อนข้างเป็นรูปธรรม ทำให้การดำเนินการต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายได้ในเร็ววันนี้
สำหรับสิ่งที่ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่คือความปลอดภัยของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องไทยพุทธ ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ ได้เข้าไปดูแลและสร้างความเข้มแข็งในพี่น้องไทยพุทธ ร่วมถึงสร้างมาตรการเพื่อให้มีความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนประเด็นในเรื่องยาเสพติด ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ดำเนินการเป็นภารกิจหลัก ซึ่งจากการดำเนินงานก็มีผลออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนอกจากในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 4 แล้ว ในประเทศไทยก็มีการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งด้านการปราบปรามและสร้างแนวป้องกัน แนวความคิดให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ปัญหายาเสพติดจะหมดไปได้ ต้องได้ความร่วมมือจากประชาชนด้วย โดยเริ่มจากการชี้เบาะแส และการดูแลให้คนในครอบครัวไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นอกจากนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ยังให้ความมั่นใจในการรับหน้าที่ของ ผบ.ทบ.คนใหม่ ว่าจะสามารถสานต่องานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปได้ ในขณะเดียวกันกลไกของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังคงทำงานอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นแนวความคิดในการพัฒนาจะเป็นไปตามกรอบเดิมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี